ชุดกิจกรรมศิลปะ ชุดกิจกรรมศิลปะ เรื่ององค์ประกอบศิลป์ เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ผู้แต่ง

  • สุพิชยา ช่วงชัยยะ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • เลิศศิริร์ บวรกิตติ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

ชุดกิจกรรมศิลปะ, องค์ประกอบศิลป์, ทักษะการเรียนศิลปะ

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมศิลปะ เรื่ององค์ประกอบศิลป์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน  โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะเรื่ององค์ประกอบศิลป์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ  ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนกับชุดกิจกรรมศิลปะ เรื่ององค์ประกอบศิลป์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ  ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3   กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ยานนาเวศ  ปีการศึกษา 2563 โดยวิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling) เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย ชุดกิจกรรมศิลปะเรื่ององค์ประกอบศิลป์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดกิจกรรมศิลปะเรื่ององค์ประกอบศิลป์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ  และแบบสอบถามวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมการสอนศิลปะเรื่ององค์ประกอบศิลป์

          ผลการวิจัยพบว่า
          1. ผลการพัฒนาชุดกิจกรรมศิลปะ เรื่ององค์ประกอบศิลป์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพการพัฒนาตามเกณฑ์ที่กำหนด ในด้านสาระสำคัญ จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ และ การวัดผลและประเมินผล ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นว่าอยู่ในระดับ เหมาะสมมาก
          2. ผลจากการศึกษาสัมฤทธิ์ของนักเรียน แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
           3. ผลจากการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดกิจกรรมศิลปะ เรื่ององค์ประกอบศิลป์เพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนศิลปะ สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชุดกิจกรรมศิลปะ ในภาพรวมอยู่ในระดับมีความพึงพอใจมาก โดยมีค่าเฉลี่ย (x)  เท่ากับ 22 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.17 สรุปได้ว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก

 

 

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตว์

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

กรวรรณ ทับทิมดี (2558) : การพัฒนากิจกรรมการสอนการจัดองค์ประกอบศิลป์โดยใช้มิติทางวัฒนธรรม สำหรับหลักสูตรศิลปศึกษาระดับปริญญาตรี. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขัณธ์ชัย อธิเกียรติ.(2558). การสอนแบบทันสมัยและเทคนิควิธีสอนแนวใหม่. เข้าถึงได้จาก http://regis.skru.ac.th/RegisWeb/datafiledownload/25590714-15.pdf.10 rAK4k8, 2562.

ณัฏฐกาญจน์ อนันทราวัน. (2559). การจัดรูปแบบการเรียนรู้ศิลปะเพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้แบบร่วมมือของนักเรียนในห้องเรียนรวมระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น. (วิทยานิพนธ์) จุฬาลงกรณ์

วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ (2558). การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน. กรุงเทพฯ หจก.ทิพย์วิสุทธ์มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

สมรักษ์ อินทวิมลศรี, (2560). ผลการใช้แนวคิดสะตีมศึกษาในวิชาชีววิทยาที่มีต่อความคิดสร้างสรรค์ทาง วิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. ปริญญามหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,

Tylor. (1976) แนวคิดทฤษฎีการเรียนรู้ (earning ccolg). เข้าถึงเมื่อ 17 กรกฎาคม. เข้าถึงได้จาก http://teacher80std.blogspot.com/2012/06/101-learning-ecology.html

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-08-05

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย