ทัศนคติและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการสนามฟุตบอลให้เช่าจังหวัดอ่างทอง

ผู้แต่ง

  • วรพล พาณยง บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ ฟุตบอลอาชีพ วิทยาลัยนวัตกรรม และการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
  • ชัยธนัตถ์กร ภวิศพิริยะกฤติ สาขาวิชาการจัดการ ฟุตบอลอาชีพ วิทยาลัยนวัตกรรม และการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

คำสำคัญ:

ทัศนคติและความพึงพอใจ, ผู้ใช้บริการ, ธุรกิจสนามฟุตบอลให้เช่า

บทคัดย่อ

         การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) คุณภาพการบริการที่คาดหวังก่อนใช้บริการ และคุณภาพการบริการ       ตามความเป็นจริง หลังใช้บริการของผู้ใช้บริการสนามฟุตบอลให้เช่า จังหวัดอ่างทอง 2) การจัดเรียงลำดับความสำคัญ   ของความต้องการจำเป็นของผู้ใช้บริการต่อคุณภาพบริการธุรกิจสนามฟุตบอลให้เช่า จังหวัดอ่างทอง 3) แนวทาง การปรับปรุงคุณภาพการบริการของสนามฟุตบอลให้เช่า จังหวัดอ่างทอง การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานการวิจัย  เชิงปริมาณ  และการวิจัยเชิงคุณภาพ ในการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้ที่มาใช้บริการสนามฟุตบอล   ให้เช่า จังหวัดอ่างทอง จำนวน 196 คน จำนวน 5 สนาม นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ ใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย การเก็บข้อมูล ทำการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานสนามฟุตบอลให้เช่า จังหวัดอ่างทองจำนวน 5 ราย คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ไม่ค่อยพึงพอใจในคุณภาพการให้บริการของสนามฟุตบอลให้เช่า จังหวัดอ่างทอง โดยมีค่าเฉลี่ยของระดับคุณภาพความคาดหวังก่อนใช้บริการมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.88 สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับคุณภาพตามความเป็นจริงของคุณภาพการให้บริการมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 3.06 ในทุกปัจจัยทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ     ด้านความน่าเชื่อถือของบริการ ด้านการตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ ด้านการเข้าถึงจิตใจ และด้าน ความไว้วางใจ 2) การจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นของผู้ใช้บริการสนามฟุตบอลให้เช่า จังหวัดอ่างทอง พบว่า ความต้องการจำเป็นที่ต้องการปรับปรุงมากที่สุดเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (PNI = 0.424) ด้านความน่าเชื่อถือของบริการ  (PNI = 0.292) ด้านการตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ (PNI = 0.226) ด้านการเข้าถึงจิตใจ (PNI = 0.200) และด้านความไว้วางใจ (PNI = 0.199)ตามลำดับ

เอกสารอ้างอิง

การกีฬาแห่งประเทศไทย. (2548). การสำรวจการเข้าร่วมกิจกรรมออกกำลังกาย เล่นกีฬา และการดูกีฬาของ

ประชากรในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: การกีฬาแห่งประเทศไทย.

ธีรกิตติ นวรัตน ณ อยุธยา. (2549). การตลาดบริการ:แนวคิดและกลยุทธ์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: แอคทีฟพริ้นท์.

รัฐภรณ์ ฟองทอง และวินิต ชินสุวรรณ. (2558). แนวทางพัฒนาคุณภาพการให้บริการแพทย์แผนไทยใน

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองดีหมี จังหวัดขอนแก่น. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ศิวพร ชูศร และธนภูมิ อติเวทิน. (2558). แนวทางการพัฒนาการบริการของธุรกิจที่พักและร้านอาหารย่านถนนข้าวสาร.

วารสารบริหารธุรกิจศรีนครินทรวิโรฒ, 6(2), 47-46.

ศุภกาญจน์ แก้วมรกต. (2558). แนวทางการพัฒนาคุณภาพบริการธุรกิจสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในจังหวัดชลบุรี.

(วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.

อาทิตยา พาหิรัญ. (2554). ปัจจัยส่วนประสมการตลาดบริการที่มีผลต่อคนวัยทำงานในการเลือกสนามฟุตบอล

หญ้าเทียมให้เช่าในจังหวัดเชียงใหม่. (การค้นคว้าแบบอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). เชียงใหม่:

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

Parasuraman, A., Zeithaml, V. A., & Berry, L. L. (1985). A conceptual model of service quality and its

implication for future research. Journal of Marketing, 49(4), 41-50.

Parasuraman, A., Zeithaml, V.A., & Berry, L. L. (1988). SERVQUAL: A multiitem scale for measuring consumer

perceptions of quality. Journal of Retailing, 12-38.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-05-22

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย