ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาการให้บริการของธุรกิจเสริมความงาม
คำสำคัญ:
ธุรกิจเสริมความงาม, ปัญหากฎหมาย, การควบคุมสัญญาให้บริการ, การคุ้มครองผู้บริโภคบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัญหาของสัญญาสำเร็จรูปเกี่ยวกับการให้บริการของธุรกิจเสริมความงามทั้งในคลินิกและโรงพยาบาลด้านความงามเฉพาะทางโดยเปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศเครือรัฐออสเตรเลียเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศสหรัฐอเมริกา จากการศึกษาพบว่าปัญหากฎหมายนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2541 ว่าด้วยเรื่องสัญญาตามมาตรา 35 ทวิ ที่บัญญัติให้การประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการใดถ้าสัญญาซื้อขายหรือสัญญาให้บริการนั้นมีกฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือหรือตามปกติประเพณีทำเป็นหนังสือคณะกรรมการว่าด้วยสัญญามีอำนาจกำหนดให้การประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการนั้นเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาได้แต่เนื่องจากธุรกิจนี้ไม่อยู่ภายใต้การบังคับจึงประกาศควบคุมสัญญาไม่ได้
จากการศึกษาพบว่าสัญญาสำเร็จรูปเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาไม่เป็นธรรม พ.ศ. 2540 และธุรกิจนี้อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2559 พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้จากการศึกกฎหมายต่างประเทศซึ่งมีความแตกต่างจากประเทศไทยพบว่าประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย เขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประเทศสหรัฐอเมริกาต่างมีการควบคุมสัญญาการให้บริการไว้โดยเฉพาะและยังมีมาตรการในการกำกับดูแลสิทธิของผู้ใช้บริการแสริมความงามโดยเฉพาะซึ่งเป็นมาตรการที่ดีที่ใช้ควบคุมสัญญาไม่ให้ละเมิดสิทธิผู้ใช้บริการโดยไม่เป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ
วิทยานิพนธ์เล่มนี้ขอเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวสัญญาการให้บริการของธุรกิจเสริมความงามจึงเห็นสมควรให้มีการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541 โดยการให้อำนาจคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาประกาศให้ธุรกิจเสริมความงามเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาได้เพื่อการคุ้มครองผู้ใช้บริการให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหายด้วย
เอกสารอ้างอิง
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์,คู่มือธุรกิจให้บริการความงาม (กรุงเทพฯ:ม.ป.ท.ม.ป.ป.),
ดาราพร ถิระวัฒน์.(2547).กฎหมายสัญญา: สถานะใหม่ของสัญญาปัจจุบันและปัญหาข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม.(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เรณู อาจยรวัตรกุล,(2548). การดำเนินคดีคุ้มครองผู้บริโภคในศาลไทย, สารนิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ศรันกรณ์ (จำปี) โสตถิพันธ์. (2561) คำอธิบายกฎหมายลักษณะซื้อขาย แลกเปลี่ยนให้. (พิมพ์ครั้งที่ 4).
กรุงเทพมหานคร: วิญญูชน.
สุษม ศุภนิตย์.(2557), คำอธิบายกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค.(พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุพิศ ประณีตพลกรัง.(2563), หลักและข้อสังเกตพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ.2540
(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: นิติธรรม.
สุษม ศุภนิตย์ .(2547).“การคุ้มครองผู้บริโภคด้านการทำสัญญาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค”,
วารสารกฎหมาย,12.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ 2540
พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ. ศ 2541
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ 2522 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2541
พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ 2509
พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2562
Australian Competition & Consumer Commission (ACCC). Consumer Guarantees: A Guide for Consumers. Australia: ACCC.
Australian Government. “Australian Bill of Rights Bill 2017.” Board of Barbering and Cosmetology, Consumer
Goide to Barbering and Cosmetology Services Code de la Consommation, Dolloz 2004.
The Civil Code of the State of California.
Guidelines on drafting standard form consumer contracts for beauty industry.
https://sites.google.com/site/sb beautyandfood/khwam-hmay.[Online.
https://www.legislation.nsw.gov.au/-/pdf/2007/9/whole.
http://www.dca.ca.gov/publications/barcosmo_goide.shtml.
https://www.dailynews.co.th/economic/755157#7s8d6f87#7s8d6f87.2563.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2021 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
