ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของ ผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
ผู้สูงอายุ, โรคความดันโลหิตสูง, พฤติกรรมการดูแลตนเองบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง และ2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเอง กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงที่อาศัยอยู่ในเขตตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี กลุ่มตัวอย่างจำนวน 201 คน สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามความรู้เรื่องโรคความดันโลหิตสูง แบบสอบถามทัศนคติในการดูแลตนเอง และแบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเอง ตรวจสอบความเชื่อมั่นของแบบทดสอบความรู้โดยใช้สูตร KR-20 มีค่าเท่ากับ 0.71 หาความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทัศนคติและพฤติกรรมโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค มีค่าเท่ากับ 0.78 และ 0.84 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาความสัมพันธ์ของเพียรสัน
ผลการศึกษาพบว่า 1) ความรู้ ทัศนคติและพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง อยู่ในระดับสูง (Mean = 14.20, 4.50, และ 3.57 ตามลำดับ; SD. = 0.72, 1.15, และ 0.57) และ 2) ความรู้ และทัศนคติ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงในระดับปานกลาง (r = .356 และ .457)
References
นีสรีน สาเร๊ะ ยุทธพงศ์หลี้ยา และกัลยา ตันสกุล. (2562). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกของสตรี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส. ในการประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 10. หน้า 1587 - 1599.
ปฐญาภรณ์ ลาลุน. (2554). พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงที่มารับบริการแผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสุขศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ประภาส ขำมาก. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2561 จาก https://tci-thaijo.org/index.php/scnet/article/view/52546/43604?fbclid=IwAR1Vu0BstudA4u0xpS6ZbJ7M9G4rdDKK_nKBPTW30plpmUNCJ8mndTwGPqA
ภัสราวลัย ศีติสาร, อรุณวรรณ สุวรรณรัตน์ และจารุวรรณ ใจลังกา. (2555). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยภาวะความดันโลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้โรงพยาบาลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา. วารสารสาธารณสุขล้านนา. 9(2): 120-136.
มุกดา สอนประเทศ. (2558). ความรู้และการปฏิบัติตัวในการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสถานีอนามัยก้าวหน้า จ.หนองบัวลำภู. สืบค้นเมื่อ 2 ธันวาคม 2561 จาก http://203.157.71.148/Information/center/reserch-55
วิจิตรา กุสุมภ์และคณะ. (2560). การพยาบาลผู้ป่วยภาวะวิกฤต:แบบองค์รวม. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพฯ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สหประชาพาณิชย์.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2561). สถิตผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.
สมจิตร ชัยยะสมุทุร และวลัยนารี พรมลา. (2561). แนวทางการพัฒนาความรู้ทัศนคติและพฤติกรรมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน จังหวัดปทุมธานี. วารสารบัณฑิตศาส์น, 15(2): 111–23.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610.
Orem, D.E. (2001). Nursing: Concepts of Practice. 6th ed. St. Louis: Mosby.
Pender, et al. (2011). Health promotion innursing practice. 6th ed. New Jersey: Pearson Education, Inc.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว