ปัญหาการกระทำละเมิดเครื่องหมายทางการค้า : ศึกษากรณีการเลียนแบบเครื่องหมายการค้า
คำสำคัญ:
กฎหมายการป้องกันและปราบปราม, การละเมิดเครื่องหมายทางการค้าบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษา (1) ประวัติความเป็นมา ความหมาย แนวคิด ทฤษฎี และวัตถุประสงค์ในการให้ความคุ้มครองสิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน (2) มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวกับการกระทำที่กระทบสิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนตามกฎหมายไทย เปรียบเทียบกฎหมายต่างประเทศ (3) วิเคราะห์ปัญหาที่เกี่ยวกับการใช้เครื่องหมายการค้าปลอม และการละเมิดต่อสิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน (4) เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเครื่องหมายการค้าให้สามารถคุ้มครองสิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนได้อย่างแท้จริง
ผลการวิจัยพบว่า (1) ประวัติความเป็นมานั้น กฎหมายของประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้านั้นได้แก่ พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2559 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายเพียงพอต่อการคุ้มครองเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน ทั้งเรื่องพิสูจน์ความเสียหายจากการทำละเมิด (2) เมื่อเปรียบเทียบกฎหมายไทยกับต่างประเทศแล้ว เห็นควรที่จะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้าของประเทศไทยในปัจจุบัน โดยกำหนดขอบเขตลักษณะการกระทำที่ที่เป็นการละเมิดให้ชัดเจน เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ในการพิสูจน์ความเสียหาย รวมทั้งเพิ่มเติมคำจำกัดความของคำว่า “เครื่องหมายการค้า” ให้ครอบคลุมถึงลักษณะรูปลักษณ์เครื่องหมายของตัวสินค้าด้วย (3) ปัญหาการกระทำละเมิดเครื่องหมายการค้า เกิดจากการไม่มีกฎหมายระบุชัดเจนในเรื่องการพิสูจน์ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป ผู้มีอํานาจในการฟ้องคดีเรียกค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดและต้องจดทะเบียนเสียก่อน ปัญหาเกี่ยวกับการเยียวยาความเสียหาย กฎหมายมิได้บัญญัติถึงการเยียวยาความเสียหายที่แท้จริงไว้โดยตรง (4) แนวทางแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเครื่องหมายการค้า ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ในส่วนการพิสูจน์ความมีชื่อเสียงของเครื่องหมายการค้า ความรับผิดจากการละเมิดและข้อยกเว้นที่ไม่เป็นการละเมิดการใช้
เครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป การพิสูจน์ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงแพร่หลายทั่วไป การเยียวยาความเสียหาย การผูกขาดทางการค้า การจดทะเบียนเสียงและกลิ่นเป็นเครื่องหมายการค้า การกระทำที่ทำให้เครื่องหมายการค้าเสื่อมลง รวมทั้งวางแนวทางการวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการล้อเลียนเครื่องหมายการค้าและบทกำหนดโทษ โดยเพิ่มความรับผิดกรณีการส่งออกสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของผู้อื่น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนำกฎหมายมาปรับใช้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยคดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้บังคับใช้กฎหมายต่อไป รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
เอกสารอ้างอิง
บรรณานุกรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ทป.86/2551. จาก
http://ip.kku.ac.th/ip/IP20%คดี/1.คดีละเมิดเครื่องหมายการค้า.pdf
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2545. จาก
https://deka.in.th/view-44686.html
ธัชชัย ศุภผลสิริ. (2536). คำอธิบายกฎหมายเครื่องหมายการค้า. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์
นิติธรรม, 2536.
ปณิธาน พูลรักษ์. (2557).“ปัญหาในการคุ้มครองลิขสิทธิ์ในงานอันมีลักษณะเป็นการล้อเลียนผลงานต้นฉบับ.” วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ปิยวัฒน์ สุภรณ์ไพจิต. (2556).“ปัญหาทางกฎหมายจากการใช้ชื่อทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น เพื่อเป็นคำสำคัญในการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ต.” วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สฤษดิ์ เรืองต่อวงศ์. (2553).“ปัญหาการใช้เครื่องหมายการค้าที่เหมือนหรือที่คล้ายกับของเจ้าของเครื่องหมาย การค้าที่ถือเป็นการละเมิดสิทธิของเจ้าของเครื่องหมายการค้า.” วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
Mattel, Inc. v. MCA Records No. CV97-6791, (1998). WL 422641.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
