แนวทางการวางคอร์ดบทเพลงไทยเดิม “บังใบ” ในรูปแบบดนตรีร่วมสมัย
คำสำคัญ:
แนวทางการวางคอร์ดบทเพลงไทยเดิม, บังใบ, รูปแบบดนตรีร่วมสมัยบทคัดย่อ
เพลงบังใบเป็นเพลงอัตราจังหวะสองชั้น เป็นเพลงเก่าไม่ทราบนามผู้แต่ง ประเภทหน้าทับสองไม้ มีสองท่อน ใช้ขับร้องในการแสดงโขนละคร ภายหลังมีผู้นำมาแต่งขยายขึ้นเป็นอัตราสามชั้น และตัดลงเป็นชั้นเดียวครบเป็นเพลงเถา
ครั้งนี้ได้นำบทเพลง บังใบ มาเรียบเรียงสร้างสรรค์งานให้เกิดรแบบที่หลากหลายเรียนรู้แนวทางการวางคอร์ด ทั้งในดนตรีรูปแบบลูกทุ่ง, ลูกกรุง โดยใช้ทางเดินคอร์ดในรูปแบบ II V I (สอง ห้า หนึ่ง) เป็นหลักและยังคงเอกลักษณ์สำเนียงของเพลงไทย ผ่านความรู้ทางทฤษฎีดนตรีแนวตะวันตกมาผสมผสานให้เกิดสุนทรียะในรูปแบบใหม่ที่สามารถเข้ากับยุคสมัยนิยมที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไว้ในปัจจุบัน โดยยังคงท่วงทำนองเดิมเพิ่มสีสันในการวางทางเดินคอร์ดช่วยขยายอารมณ์เพลงตรงตามความต้องการของผู้เรียบเรียง เป็นบทเพลงที่มีแนวทางการประสานเสียงจากคอร์ดประเภทต่าง ๆ แทนการใช้คอร์ดในรูปแบบเดิม เพื่อสร้างสรรค์แนวคิดพัฒนาของผู้เรียบเรียง
เอกสารอ้างอิง
โกวิทย์ ขันธศิริ และคณะ. (2529) การวิเคราะห์เพลงไทยด้วยคอมพิวเตอร์. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จิรภัทร อังศุมาลี. (2552). Jazz-Rock Fusion แจ๊สวิถี (ขบวนการ 2). กรุงเทพฯ: มติชน.
ณรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร. (2552). การประพันธ์เพลงร่วมสมัย. กรุงเทพมหานคร:สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย.
ณรงค์ชัย ปิฎกรัชต์. (2557). สารานุกรมเพลงไทย. นครปฐม:สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหิดล.
บรรจง ชลวิโรจน์. (2545). การประสานเสียง.(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: เสมาธรรม.
ศักดิ์ศรี วงศ์ธราดล. (2555ก). ทฤษฎีดนตรีแจ๊สเล่ม 1. กรุงเทพฯ: วงศ์สว่างพับลิชชิ่ง แอนด์ พริ้นติ้ง.
ศักดิ์ศรี วงศ์ธราดล. (2558). ทฤษฎีดนตรีแจ๊สเล่ม 2. กรุงเทพฯ: คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ศิลปบรรเลง และลิขิต จินดาวัฒน์. (2521) ดนตรีไทยศึกษา. กรุงเทพมหานคร :สำนักพิมพ์อักษรเจริญทัศน์
Thummabutr, N. (2009). Kanprapun pleng reum sa mai [Contemporary music composition]. Bangkok: Chulalongkorn University.
Pidokrat, N. (2014). Sa ra nu krom pleng thai [The Encyclopedia of Thai song]. NakhonPathom: Mahidol University.
Chonwirot, B. (2002). Kan prasan siang (Phim khrang thi 2) [Harmony (2nd ed.)]. Bangkok: Sema tham.
Wongtharadol, S. (2015). Thritsadi dontree jazz lem 2 [Theory of Jazz Music Volume 2]. Bangkok: Faculty of Music Silpakorn University.
Aebersold, J. (1967). How to Play Jazz and Improvise. 6thed. New Albany: Jamey Aebersold.
Alldis, D. (2003). A Classical Approach to Jazz Piano Improvisation. Milwaukee: Hal Leonard.
Berg, S. (1998). Essentials of Jazz Theory. Milwaukee: Hal Leonard.
Berkman, D. (2013). The Jazz Harmony Book. Petaluma: Sher Music.
Levine, M. (1995). The Jazz Theory Book. U.S.A.: Sher Music.
Ligon, B. (2001). Jazz Theory Resources. Milwaukee: Hal Leonard.
Mock, D. (2001). Artful Arppeggios. Milwaukee: Hal Leonard.
Nettles, B. (1987). Music Harmony 1. Boston: Berklee College of Music.
Ricker, R. (1976). Pentatonic Scales for Jazz Improvisation. Van Nuys: Alfred Music.
Sokolow, F. (1998). Musicians Institute Essential Concepts. Milwaukee: Hal Leonard.
Wyatt, K. & Schroeder, C. (1998). Musicians Institute Essential Concepts Harmony & Theory. Milwaukee: Hal Leonard.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
