การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นตลอดโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ของสินค้าเกษตรดอกบัวแดงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการจัดการชุมชนอย่างยั่งยืนในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
คำสำคัญ:
การพัฒนาการเกษตร, โซ่อุปทานและโลจิสติกส์, ดอกบัวแดงบทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของสินค้าเกษตรดอกบัวแดงในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม 2) เพื่อวิเคราะห์สถานภาพการดำเนินงานและพัฒนาศักยภาพกระบวนการผลิตและการตลาดของกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสินค้าเกษตรดอกบัวแดงในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม และ 3) เพื่อศึกษาการจัดการโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของสินค้าเกษตรดอกบัวแดงในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
ผลการวิจัยพบว่า ความเป็นเอกลักษณ์ทางด้านการทำเกษตรดอกบัวแดง และวิถีชีวิตเนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่แวดล้อมไปด้วยทุ่งบัวแดง เป็นชุมชนที่ยึดอาชีพเกษตรกรรมและอาชีพปศุสัตว์เป็นหลัก เห็นได้จากการที่หลายครัวเรือนส่วนใหญ่จะทำนาบัวแดงและเลี้ยง ไก่ หมู เป็ดและมีระบบฟาร์ม เพื่อเลี้ยงชีพและเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในครอบครัว เป็นลักษณะของชุมชน เชิงเกษตรที่สมบูรณ์ ให้ความรู้ด้านสุขลักษณะที่ดีในการผลิตสบู่ดอกบัว การควบคุม สุขลักษณะส่วนบุคคลทั้งทางด้านการแต่งกาย และสุขนิสัย การชั่ง-ตวง เพื่อให้ได้ปริมาณที่คงที่และแน่นอน พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกแก่ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยกําหนดจุดเด่นผลิตภัณฑ์ให้มีความแตกต่างด้านการผลิตที่ได้มาตรฐานบนพื้นฐานของภูมิปัญญา/วัตถุดิบท้องถิ่น มีการจัดการโซ่อุปทานประกอบด้วยลักษณะของ โซ่อุปทานต้นน้ำ-ปลายน้ำ 3 รูปแบบ ซึ่งมีองค์ประกอบโดยรวมของโซ่อุปทานทั้งหมดได้แก่ ผู้จัดหาวัตถุดิบ เกษตรกรดอกบัวแดง พ่อค้าคนกลาง พ่อค้าปลีก และผู้บริโภค มีการจัดตั้งและขับเคลื่อนแนวทางของวิสาหกิจชุมชนไปได้ด้วยดี โดยสมาชิกในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนล้วนเป็นชาวบ้าน ในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ทำให้เกิดการบริหารจัดการที่เข้าใจถึงสภาพปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของชุมชน หลังจากที่ดำเนินการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา ชาวบ้านในชุมชนเห็นว่าช่วยบรรเทาปัญหาในการประกอบอาชีพได้มากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
ณิชชา สุขสบาย และคณะ. (2554). รูปแบบการเกษตรของชาวคลองจินดาที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ: คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
จิตพนธ์ ชุมเกตุ. (2560). การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการจัดการชุมชนอย่างยั่งยืนของชุมชนไทยมุสลิม อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี. คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
จุฬาภรณ์ ถาวร. (2550). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำเกษตรยั่งยืนของแกนนำเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี. ปริญญานิพนธ์ สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ.
เทพกร ณ สงขลา. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและการใช้ทรัพยากรเกษตรของชุมชน: กรณีศึกษาท่องเที่ยวเชิงเกษตรช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์. 6(2): 1-12.
ที่ทำการปกครองจังหวัดนครปฐม. (2557). แผนพัฒนาจังหวัด 4 ปี (2557-2560). ค้นเมื่อ 22 มกราคม 2565 จาก http://www.nakhonpathom.go.th/files/com_news_develop_plan/2016-07_96f380c9fb2b135.pdf.
วรพงศ์ ผูกภู่. (2563). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อการท่องเที่ยว. ค้นเมื่อ 27 พฤษภาคม 2565 จาก https://www.randdcreation.com/content/4738/การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน-เพื่อการท่องเที่ยว-.
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร. (2563). รายงานประจำปี 2562 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร. กรุงเทพฯ: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร.
Chumkate, J. (2015). A Study on the Management Potential with Creative Economy- Based Concept of Restaurant Entrepreneurs around Seaside Tourist Attractions in Thailand. Journal of Global Academic Institute Business and Economics 1, 2: 84-91.
Chumkate, J. (2015). Authentic Evaluation and Management Approach of OTOP Herbal Product of SMEs Entrepreneur in Western Region of Thailand. Journal of Advanced Management Science 3, 2: 123-127.
Drucker, Peter F. (2006). The Effective Executive: The Definitive Guide to Getting the Right Things Done. United States: Harper Business.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
