การสื่อสารการตลาดบูรณาการ (IMC) ที่มีผลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออนไลน์ ของผู้บริโภคในเขตพื้นที่ภาคเหนือ
คำสำคัญ:
การสื่อสารการตลาดบูรณาการ (IMC), ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออนไลน์, พื้นที่ภาคเหนือบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ เพื่อศึกษาการสื่อสารการตลาดบูรณาการ (IMC) และเปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคล ที่มีผลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตพื้นที่ภาคเหนือ และวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงเส้น ของตัวแปรด้านการตลาดบูรณาการ (IMC) มีผลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตพื้นที่ภาคเหนือ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริโภคเครื่องสำอางออนไลน์ในเขตพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ สถิติเชิงพรรณนา ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน คือ การเปรียบเทียบระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับ การตัดสินใจเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา โดยหาค่า T-test และ F-test และการวิเคราะห์สมการถดถอยเชิงเส้น (Linear Regression Analysis) เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย
ผลการวิจัย พบว่า ระดับการสื่อสารการตลาดบูรณาการ (IMC) ที่มีผลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตพื้นที่ภาคเหนือ โดยภาพอยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย (x̄ =3.44) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การส่งเสริมการขาย (x̄ =3.77) รองลงมาได้แก่ การใช้พนักงานขาย (x̄ =3.48) การตลาดทางตรง (x̄ =3.47) การประชาสัมพันธ์ (x̄ =3.45) และ การโฆษณา (x̄ =3.04) ตามลำดับ กลุ่มผู้บริโภคที่มี เพศ อายุ อาชีพ และระดับการศึกษา ต่างกันมีผลต่อการ ซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตพื้นที่ภาคเหนือ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
สมการถดถอยเชิงเส้นของการตลาดบูรณาการ (IMC) ที่มีผลต่อการซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออนไลน์ของผู้บริโภคในเขตพื้นที่ภาคเหนือ คือ Y = 0.196 (ด้านการโฆษณา)+ 0.207(ด้านการส่งเสริมการขาย)+ 0.195(ด้านการประชาสัมพันธ์)+ 0.197 (ด้านการใช้พนักงานขาย)+ 0.198(ด้านการตลาดทางตรง)
เอกสารอ้างอิง
ธนาศักดิ์ ข่ายกระโทก. (2560). พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคในจังหวัดอุบลราชธานี. มหาวิทยาลัยราชธานี.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9.กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ภัทรวดี เหรียญมณี. 2559. การสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการผ่านสื่อดิจิทัล ที่ส่งผลต่อการ ตัดสินใจใช้บริการค่ายมวย (Boxing Gym) เพื่อการออกกำลังกายในเขต กรุงเทพมหานคร. การค้นคว้าอิสระปริญญาโท. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ. 2550. พฤติกรรมผู้บริโภค. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ บริษัท ธีระฟิล์มและไซเท็กจำกัด.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2541). การบริหารการตลาดยุคใหม่. กรุงเทพมหานคร: ธีระฟิล์ม และ ไซเท็กซ์.
เสรี วงษ์มณฑา. (2540). ครบเครื่องเรื่องการสื่อสารการตลาด. กรุงเทพมหานคร : บริษัทดวงกมลสมัย จำกัด.
เสาวนีย์ศรีจันทร์นิล. (2559). ศึกษาส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านทางอินเทอร์ เน็ตของผู้บริโภค ในจังหวัดนนทบุรี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2560). สถิติประชากรศาสตร์ ประชากรและเคหะ. (ออนไลน์). แหล่งที่มา http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/01.aspx. 18 สิงหาคม 2560
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.). (2560). รายงานผลการสํารวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2560.สำนักยุทธศาสตร์ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.
องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค.2558. องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคมีแล้วเกิดประโยชน์ อย่างไร?.”http://www.indyconsumers.org/main/introduce/the-independent-committee-for-consumer-protection-iccp.html, 8 กันยายน 2560
Arens, W. F. 2002. Contemporary advertising. Boston: McGraw-Hill/Irwin.
Farag, S., T. Schwanen and M. Dijst (2007). "Shopping online and/or in-store? A structural equation model of the relationships between e-shopping and in- store shopping." Transportation Research Part A: Policy and Practice 41(2): 125-141.
Kotler, Philip. 2003. Marketing Management. 11th ed. Upper Saddle River, N.J.: Pearson Prentice Hall.
Zeff, R.L., & Aronson, B. (1999). Advertising on the Internet. USA: John Wiley & Sons.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
