การศึกษาความคาดหวังและสภาพการปฏิบัติจริงในการจัดการงานวิจัย ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
คำสำคัญ:
การจัดการงานวิจัย, ความคาดหวังต่อการจัดการงานวิจัย, สภาพการปฏิบัติจริงในการจัดการงานวิจัยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความคาดหวังและสภาพการปฏิบัติจริงในการจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ใน 5 ด้าน คือ ด้านอาจารย์ ด้านองค์กรวิจัยของมหาวิทยาลัย ด้านการจัดการคุณภาพงานวิจัย ด้านผู้บริหารงานวิจัย และด้านเครือข่ายการวิจัย ตามความคิดเห็นของบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสม ประกอบด้วย ระเบียบวิธีเชิงปริมาณ และระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ โดยดำเนินการวิจัย 3 วิธี คือ 1) การวิจัยเอกสาร 2) การวิจัยเชิงสำรวจสถาบัน และ 3) การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเชิงลึก ผลการวิจัย พบว่า
สภาพการจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย โดยภาพรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.13) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน คือ ด้านองค์กรวิจัยของมหาวิทยาลัย (
= 3.32) ด้านการจัดการคุณภาพงานวิจัย (
= 3.26) ด้านอาจารย์ (
= 3.24) ด้านผู้บริหารงานวิจัย (
= 3.10) และด้านเครือข่ายการวิจัย (
= 2.68)
ความคาดหวังต่อการจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย โดยภาพรวมทั้ง 5 ด้าน อยู่ในระดับมาก ( = 4.19) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากทุกด้าน คือ ด้านผู้บริหารงานวิจัย (
= 4.24) ด้านองค์กรวิจัยของมหาวิทยาลัย (
= 4.21) ด้านอาจารย์ (
= 4.20) ด้านการจัดการคุณภาพงานวิจัย (
= 4.20) และด้านเครือข่ายการวิจัย (
= 4.11)
เปรียบเทียบความคาดหวังและสภาพการปฏิบัติจริงในการจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย โดยภาพรวมในแต่ละด้านและรวม 5 ด้าน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และได้แนวทางการพัฒนาการจัดการงานวิจัยของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย คือ 1) ควรพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยทุกระดับ ได้แก่ ผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากรฝ่ายสนับสนุน นักศึกษา และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่การวิจัย 2) ปรับโครงสร้างการวิจัยทุกระดับ ทั้งสถาบันวิจัยและพัฒนา คณะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการวิจัย ตลอดโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการวิจัย 3) ส่งเสริมการสร้างความตระหนักด้านงานวิจัยเป็นหน้าที่ของอาจารย์ทุกคนต้องทำวิจัย ตลอดจนพัฒนาให้นักศึกษามีส่วนร่วมการวิจัย 4) ควรมีการกำหนดหรือการประเมินนโยบาย/แนวทางการบริหารงานวิจัยทุกๆ 3 ปี และ 5) ควรสร้างเครือข่ายกับภาคีต่างๆ เครือข่ายการวิจัยระหว่างมหาวิทยาลัย ผู้ประกอบการ และชุมชน ให้มากกว่านี้ ควรมีการประสานความร่วมมือด้านวิจัยกับต่างมหาวิทยาลัยทั้งภายในและภายนอกประเทศให้มากขึ้น
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
ข้อความที่ปรากฎในวารสารฉบับนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนแต่ละท่าน สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และกองบรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ขอให้ผู้อ่านอ้างอิงในกรณีที่ท่านคัดลอกเนื้อหาบทความในวารสารฉบับนี้