การพัฒนาบทเรียนบนเว็บโดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มีเครือข่ายสังคมสนับสนุนการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนโปรแกรมภาษาเบื้องต้น ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3;Development of Web-Based Instruction Focusing on Problem Based Learning Using Social Networks to Support Mathayoms

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนบนเว็บโดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มีเครือข่ายสังคมสนับสนุนการเรียนรู้
เรื่องการเขียนโปรแกรมภาษาเบื้องต้น ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อหาประสิทธิภาพของบทเรียนบนเว็บโดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มี
เครือข่ายสังคมสนับสนุนการเรียนรู้โดยใช้สูตรของเมกุยแกนส์ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วย
บทเรียนบนเว็บและการสอนตามปกติ 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเว็บ
และการสอนตามปกติ 5) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียน
บนเว็บและนักเรียนที่เรียนด้วยการสอนตามปกติ 6) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเว็บโดยใช้ปัญหาเป็น
ฐานที่มีเครือข่ายสังคมสนับสนุนการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนชุมชนโนนแดง อำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 จำนวน 2 ห้องเรียน รวม 57 คน คือห้อง ม.3/1 และ ม.3/2 ซึ่งมีการจัดห้องเรียนแบบคละ
ความสามารถ คัดเลือกโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยวิธีจับฉลากเลขประจำห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ใน
การวิจัย บทเรียนบนเว็บ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหา
แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ได้แก่ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมติฐานด้วย t-test (Dependent
Sample) และ 1-way MANOVA ผลการวิจัยพบว่า
1) บทเรียนบนเว็บโดยใช้ปัญหาเป็นฐานที่มีเครือข่ายสังคมสนับสนุนการเรียนรู้ ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหา มี 5
ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นแนะนำปัญหา ขั้นกำหนดงานที่ต้องดำเนินการ ขั้นรวบรวมข้อมูล ขั้นเตรียมนำเสนอผลงาน ขั้นวิเคราะห์และประเมิน
ผลการทำงาน บทเรียนช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ ฝึกทักษะการคิดแก้ปัญหา มีการประเมินผลบทเรียนโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่าบทเรียนมี
คุณภาพอยู่ในระดับมาก 2) ประสิทธิภาพของบทเรียนบนเว็บตามเกณฑ์มาตรฐานของเมกุยแกนส์ มีค่าเท่ากับ 1.02 ซึ่งมีประสิทธิภาพ
ตามเกณฑ์มาตรฐานของเมกุยแกนส์ 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเว็บ และ การสอนตามปกติพบ
วา่ กลมุ่ ตัวอยา่ งทั้งสองกลมุ่ มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไมแ่ ตกตา่ งกัน 4) ความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาระหวา่ งนักเรียนที่เรียน
ด้วยบทเรียนบนเว็บ และ การสอนตามปกติ ทั้งสองกลุ่มมีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่แตกต่างกัน 5) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาระหว่างนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเว็บ และนักเรียนที่เรียนด้วยการสอนตามปกติ ไม่แตก
ต่างกัน และ6) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนบนเว็บอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด

The purposes of this research were 1) develop of Web-Based Instruction (WBI) Focusing on Problem
Based Learning (PBL) Using Social Networks to Support Mathayomsueksa III Students In Learning Basic
Programming Language.2) to find the efficiency of WBI Focusing on PBL Using Social Networks by using
Merguigan’s formula 3) to compare learning achievements the WBI group and the Traditional group. 4) to
compare the student’s solving ability problems between the WBI group and the Traditional group. 5) to
compare learning achievement and the student’s ability to solve problems between the WBI group and the
Traditional group. 6) to study the student’s satisfaction of the WBI Focusing on PBL Learning Using Social
Networks. The sample was students in Matthayomsuksa III who studied Information and communications
technology subject attending NonDaeng Community School, Non Daeng District, NaKhonRatchasima Province,
NaKhonRatchasima Primary Educational Service Area Office 7 in the first semester of the academic year
2014. The subjects were randomly selected from multigrade 57 students of Matthayom Suksa 3/1 and 3/2 by
using Cluster Random Sampling Method from the ID Student’s number. The instruments were WBI, Lesson
plans, Solving Problem Ability test, Achievement test and Satisfaction Assessment form. The statistical
procedures used for data analysis were arithmetic mean, percentage, standard deviation, t-test (Dependent
Samples) and 1-way MANOVA
The research results were as follows 1) The WBI Focusing on Problem Based Learning PBL Using
Social Networks supported the student’s ability to solve problems 5 steps including problem suggestion, work
planning, gathering data, preparing presentation, and analysis & assessment. The lesson promoted student’s
learning practiced solving problem and the expert assessed the lessons at a high level. 2) The efficiency of
WBI was 1.02 which was higher than 1.00 by using Merguigan’s formula. 3) The student’s achievement
between students who studied with the WBI and the Traditional group were not significantly difference. 4)
The student’s solving ability problems between students who studied with the WBI and the Traditional group
were not different. 5) The learning achievements and the student’s solving ability problems between students
with WBI and the Regular teaching were not different. 6) The satisfaction of the students who studied with
WBI is in the most