การพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาประกอบกลุ่มร่วมมือวิชาคณิตศาสตร์เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดวิเคราะห์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาประกอบกลุ่มร่วมมือ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) หาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญา ประกอบกลุ่มร่วมมือ วิชาคณิตศาสตร์ และ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถการคิดวิเคราะห์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาประกอบกลุ่มร่วมมือ ตามกระบวนการวิจัยและพัฒนา (R&D) รวม 3 ระยะ กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/4 โรงเรียนเทศบาลวัดกลาง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ปีการศึกษา 2557 จำนวน 27 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ โดยการประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาประกอบกลุ่มร่วมมือ จำนวน 8 แผน รวมเวลาเรียน 16 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ 3) แบบทดสอบวัดการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 15 ข้อและ 4) แบบวัดแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการเรียนของนักเรียน ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานด้วยสถิติ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัยพบว่า 1) การจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาประกอบกลุ่มร่วมมือ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.56/76.85 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 2) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยการประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาประกอบกลุ่มร่วมมือ วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.3842 3) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยการประยุกต์ทฤษฎีพหุปัญญาประกอบกลุ่มร่วมมือ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดวิเคราะห์ และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01
Article Details
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
References
Ministry of Education. (2008). Basic Education Core Curriculum 2008. Bangkok : Printing Agriculture Cooperatives of Thailand.
Niwat Sarakhun.(2002). “Fun Activities to Add Math.,” Academic, 5(3) : 45.
Wat Klang Municipal School.(2013). Report of Self-assessment of WatKlang Municipal School in 2013. KhonKaen : WatKlang School District.
Dewey,J.(1933). How We Think A Restatement of the Relation of Reflective Thinking to the Educa tive Process. Boston,MAD.C. : Heath and Co Publishers.
Tisana Khammani. (2002). Teaching Science.Bangkok : Chulalongkorn University Publishing House.
Chamathip Pornrakul. (2011). Teaching of the Theory Thinking Process and Usage. 2nd edition. Bangkok: V. printing.
Ong, Ai-Choo and Borich, Gary D. (2006). Teaching Strategies That Promote Thinking: Models and Curriculum Approaches. Singapore: McGraw-Hill Education.
Slavin,R.E., and others.(1990). “Success for All : First-year outcomes of a comprehensive plan for reforming urban education,” American Educational Research Journal, 27(1) , 255-27.
Phimphan Dechakub.(2001). Teaching that Focuses on Child Center : Concepts, Methods and Techniques of Teaching 1. Bangkok : The Master Group Management.
Tisana Khammani. (2013). Teaching science : Knowledge for Organizing Effective Learning Processes. 17th Edition. Bangkok : Chulalongkorn University.
Wimonrat Sunthonrat. (2006). Innovation for Learning. Mahasarakham : Department of Curriculum and Instruction, Faculty of Education, Mahasarakrm university.
Tisana Khammani. (2007). Teaching science : Knowledge for Organizing Effective Learning Processes. 17th Edition. Bangkok : Chulalongkorn University.
Larson, B. E., Keiper, T. A.(2007). Instructional strategies for middle and high school. New York: Routledge.
ArreeSanhachawee. (2000). Multiple Intelligence and Cooperative Learning. Bangkok : Wean Keaw.
Johnson, T. and Johnson, D.W. (1987). An overview of cooperative learning. In J. S. Thousand, R. A.Villa and A.I. Nevin. (Eds.),Creativity and collaborative learning. Baltimore, Maryland : Paul H. Brookes Publishers.
Niras Juntharajit.(2010). Learning in Thinking. Mahasarakham : Mahasarakham University Press.
Bung-on Sereerat. (2000). A Variety of Methods for Learning Management to Develop Multiple Intelligences. Bangkok :Wattana Panich.
Gardner, H. (1999). Intelligence Reframed : Multiple Intelligences for the 21th Century. New York : Basic Books.
Pitt, R.(2013) “Cooperative Learning,” in Classroom Teaching Skills. p.255-296. Editedby James M.Cooper, Belmont, CA: Wadsworth, Cengage Learning.