แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกาฬสินธุ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของสมรรถนะการทำงาน เป็นทีมของครู สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกาฬสินธุ์ และ 2) ศึกษาแนวทางพัฒนาสมรรถนะ การทำงานเป็นทีมของครู สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกาฬสินธุ์ วิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครู จำนวน 196 คน เครื่องมือ คือ แบบสอบถาม ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 และระยะที่ 2 ศึกษาแนวทาง การพัฒนาสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู คือผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คนเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู เครื่องมือคือ แบบสัมภาษณ์ และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เพื่อประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของคู่มือแนวทางการพัฒนาสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู เครื่องมือคือ แบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางการพัฒนาสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู
ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู โดยรวมอยู่ในระดับมาก และสภาพที่พึงประสงค์ ของสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เรียงลำดับความต้องการจำเป็น คือ 1) ด้านการสร้างความร่วมมือ 2) ด้านการตัดสินใจ 3) ด้านการสื่อสาร 4) ด้านความไว้วางใจ และ 5) ด้านการมีมนุษยสัมพันธ์ แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการทำงาน เป็นทีม คือ คู่มือพัฒนาสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู และผลการประเมินความเหมาะสม และความเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
References
การัณยภาส ศิวะกรภูริหิรัญ และธัชชัย จิตรนันท์. (2560).การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะผู้ปฏิบัติงานบุคลากรกลุ่มบริหารงานบุคคลในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด, 13(1), 38-48.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2579). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
จรีพร โชติพิบูลย์ทรัพย์. (2560). การสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. สืบค้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 จาก http://ebook. ocsc.go.th/Home/About/76?group=1.
ไฉไลศรี เพชรใต้ และพชรวิทย์ จันทร์ศิริสิร. (2563). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้ของครูประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษญวิทยาเชิงพุทธ, 5(11), 170-184.
ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์. (2546). การสร้างทีมงานทีมีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอร์เน็ท.
ฐิตารีย์ สุขบุตร และสิวะกรณ์ กฤษณสุวรรณ. (2563). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอำนาจเจริญ. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 20(3), 71-81.
ทองทิพภา วิริยะพันธุ์. (2553). การบริหารทีมงานและการแก้ปัญหา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สหธรรม.
นงลักษณ์ วิรัชชัย และสุวิมล ว่องวานิช. (2542). การวิเคราะห์การจัดอันดับของมหาวิทยาลัยของประเทศในเอเชีย. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
นิภาภรณ์ ซ้ายโพธิ์กลาง และศิวะกรณ์ กฤษสุวรรณ. (2561). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านการบริหารจัดการชั้นเรียนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยรมหาสารคาม, 24(2), 80-95.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสาหรับการวิจัย เล่ม 1 (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปกรณ์พัฒน์ ศิริพินยาวงศ์ และธรินธร นามวรรณ. (2564). การพัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมของครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์. วารสารพุทธปรัชญาวิวัฒน์, 5(2), 100-112.
ประหยัด ชำนาญ และสาคร อัฒจักร. (2563). การพัฒนาแนวทางการทำงานเป็นทีมสำหรับสถานศึกษา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ. วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร, 17(76), 77-89.
พงศธร รุ่งโรจน์ และสุธรรม ธรรมทัศนานนท์. (2564). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะการทำงานเป็นทีมของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 10(1), 416-425.
ไพโรจน์ บาลัน. (2553). ทักษะการบริหารทีม. กรุงเทพฯ: แอคทีฟพริ้นท์.
ภาวิดา ธาราศรีสุทธิ และวิบูลย์ โตวณะบุตร. (2551). หลักและทฤษฎีการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
รุ่งศักดิ์ ศิวาชัญ. (2558). ทักษะการแก้ปัญหาและการตัดสินใจสรรถนะหลักของผู้นำในทุกยุคทุกสมัย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร.
ศรัญญ พงศ์ประเสริฐสิน. (2554). พฤติกรรมการตัดสินใจของผู้บริหารกับประสิทธิผลโรงเรียนคาทอลิก สังกัดอัครสังฆมณฑล. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564). กรุงเทพฯ: ม.ป.พ.
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกาฬสินธุ์. (2564). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564. กาฬสินธุ์: สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดกาฬสินธุ์.
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. (2560). คู่มือการดำเนินงาน กศน.ตำบล กลุ่มแผนงานสำนักงาน กศน. กรุงเทพฯ: สำนักงานส่งเสริมการศึกษาฯ.
สุนันทา เลาหนันท. (2549). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: สถาบันราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Education and Psychological Measuremen, 30(3), 607-610.