การศึกษาปัญหาและแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน โดยมีขั้นตอนการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 เพื่อศึกษาปัญหาการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียนแกนนำ จำนวน 199 โรงเรียน รวม 796 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.63 ถึง 0.86 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในโรงเรียน ผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัญหาการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 อยู่ในระดับมาก (μ= 3.57, σ=0.66) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยรวม ได้แก่ 1.1) ด้านการเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา อยู่ในระดับมาก (μ=3.93, σ=0.86) 1.2) ด้านการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผล อยู่ในระดับมาก (μ=3.81, σ=0.80) 1.3) ด้านการสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาอยู่ในระดับมาก (μ=3.96, σ =0.90) และ 1.4) ด้านการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการบริหารหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาอยู่ในระดับมาก (μ=3.99, σ=0.91) 2) แนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ประกอบด้วย 2.1) ด้านการเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา ประกอบด้วย 1) แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2) ประชุมครูและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง สร้างความรู้ความเข้าใจ 3) นำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปปรับใช้ตามบริบทของสถานศึกษา 2.2) ด้านการนิเทศ กำกับ ติดตาม และประเมินผล ประกอบด้วย 1) การนิเทศ กำกับ ติดตามหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาทั้งภายในและภายนอก 2) วางแผนการนิเทศอย่างมีขั้นตอน มีปฏิทินการนิเทศชัดเจน 3) ใช้แบบนิเทศ กำกับติดตามที่หลากหลายเหมาะสมและประเมินผลตามสภาพจริง 4) นำผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากการนิเทศไปปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2.3) ด้านการสรุปผลการดำเนินงานบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริต ประกอบด้วย 1) การจัดทำเอกสารหลักฐานที่เป็นปัจจุบัน 2) รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินผล เพื่อรายงานผลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อสะท้อนผลตามสภาพจริง 3) รายงานผลการดำเนินงานของสถานศึกษาต่อสำนักงานเขตพื้นที่ฯ และมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ 2.4) ด้านการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการบริหารจัดการหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประกอบด้วย 1) ศึกษาสภาพปัญหา วางแผนการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา 2) รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สรุปผลการดำเนินงานมาวิเคราะห์หาแนวทางในการพัฒนา ปรับปรุง 3) ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องระดมความคิดในการแก้ไขปัญหาด้วยความร่วมมือเพื่อให้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาที่ปรับปรุงพัฒนานั้นมีคุณภาพ
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
References
จารุวรรณ สุขุมาลพงษ์. (2556). แนวโน้มของคอรัปชั่นในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: รัฐสภา.
ทองทิพย์ มนตรี และคณะ. (2558). การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16. เอกสารนำเสนอในที่ประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ประจำปี 2558. สงขลา: หาดใหญ่.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 7).กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10)แก้ไขเพิ่มเติม. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
ปุณฑริก พรชนะวัฒนา. (2562). การบริหารหลักสูตรปฐมวัยของโรงเรียนเอกชน สังกัดสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดพะเยา. (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงราย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2558). การประเมินหลักสูตร: แนวคิดกระบวนการและการใช้ผลการประเมิน. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัย,สุโขทัยธรรมาธิราช.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2550 ก). ประมวลสาระชุดวิชาการนิเทศการสอนในระดับประถมศึกษาหน่วยที่ 1-3. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
รัตนา ดวงแก้ว. (2561). การบริหารและพัฒนาหลักสูตร ใน สมจิตรเผื่อนโภคา (บ.ก.), ประมวลสาระชุดวิชาการบริหารวิชาการและทรัพยากรการศึกษา. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
วิชัย วงษ์ใหญ่. (2550). “หลักสูตรสถานศึกษา” สารานุกรมวิชาชีพครู: เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา.
สุภาพร พักกระโทก. (2557). ปัญหาและแนวทางการแก้ปัญหาการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 3. (วิทยานิพน์ปริญญามหาบัณฑิต). นครราชสีมา:มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). หลักสูตรแกนกลางการศึกษา พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมชุนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). คู่มือหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3. (2562). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2562: กลุ่มนิเทศ ติดตาม วัดและประเมินผล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3. (2564). รายงานผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2564: กลุ่มนิเทศ ติดตาม วัดและประเมินผล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2550. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
อรุณรัตน์ บุพศิริ. (2554). การบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โรงเรียนในอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม. (วิทยานิพนธ์ ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). นครพนม: มหาวิทยาลัยนครพนม.