การพัฒนาความสามารถการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เรื่องความยาวรอบรูปและพื้นที่โดยใช้รูปแบบการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา เรื่องความยาวรอบรูปและพื้นที่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ แบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา เรื่อง ความยาวรอบรูปและพื้นที่ 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เรื่องความยาวรอบรูปและพื้นที่ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังได้รับจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา กับเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสามัคคีมีชัยวิทยา อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 จำนวน 1 ห้องเรียน มีนักเรียนจำนวน 20 คน โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม ซึ่งใช้โรงเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา เรื่องความยาวรอบรูปและพื้นที่ จำนวน 8 แผน รวม 18 ชั่วโมง ซึ่งมีความเหมาะสมมากที่สุด คะแนนเฉลี่ย 4.85 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่องความยาวรอบรูปและพื้นที่ ใช้ทดสอบทั้งก่อนเรียนและหลังเรียน ข้อสอบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.38-0.71 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.30-0.70 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.88 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง ความยาวรอบรูปและพื้นที่ ข้อสอบอัตนัย จำนวน 4 ข้อ มีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.55-0.65 ค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.20-0.40 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Hotelling’s T2 ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา เรื่อง ความยาวรอบรูปและพื้นที่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.15/75.25 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ แบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา เรื่อง ความยาวรอบรูปและพื้นที่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ 0.5352 ซึ่งมีความก้าวหน้าทางการเรียน ร้อยละ 53.52 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เรื่อง ความยาวรอบรูปและพื้นที่ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
ชญาภรณ์ เอกธรรมสุทธิ์ และคณะ. (2559). รูปแบบการเรียน การสอนที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยบรมราชชนนี, 32(3), 110-121.
เพชรา บุดสีทา. (2560). แนวทางการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21.กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
ภานุมาศ วรสันต์. (2560). การพัฒนาจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยใช้โปรแกรมจีโอจีบราเรื่อง การแยกตัวประกอบของพหุนาม สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ปริญญานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตรศึกษา). มหาสารคาม: คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
รสิตา วรรณรัตน์. (2563). การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์และการสื่อสารด้านการเขียนทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์, 15(2), 73-86.
รุสมีนี หะยียูโซ๊ะ. (2559). ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อ ความสามารถในการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 3. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). สงขลา: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
วิไลวรรณ สีแดด. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรม เรื่องเวกเตอร์ในสามมิติผ่าน GeoGebra Applet สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ. (ไม่ได้ตีพิมพ์).
ศรชัย ปราบงูเหลือม. (2560). การพัฒนาทักษะการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นธยมศึกษาปีที่ 5 โดยการการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับโปรแกรมจีโอจีบรา. (ปริญญานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์คณะศึกษาศาสตร์). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สิทธิชัย ชมพูพาทย์. (2554). การพัฒนาพฤติกรรมการเรียนการสอน เพื่อการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของครูและนักเรียนในโรงเรียนส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์โดยใช้การวิจัยปฏิบัติการเชิงวิพากษ์ (ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สรวงสุดา ปานสกุล. (2545). การนำเสนอรูปแบบการเรียนรู้กระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์แบบร่วมมือในองค์กรบนอินเทอร์เน็ต (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาโสตทัศนศึกษา). กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Cusins, P. (1995). Action learning revisited. Industrial and Commercial training.
Van Hooijdonk, M., Mainhard, T., Kroesbergen, E. H., & van Tartwijk, J. (2020). Creative problem solving in primary education: Exploring the role of fact finding, problem finding, and solution finding across tasks. Thinking Skills and Creativity, 37, 100-665.