The use of Cooperative Task-based Learning in Improving Students’ English Pronunciation

Main Article Content

Pimonpan Rojanacheewinsupond

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้เพื่อศึกษาว่าการเรียนรู้โดยการปฏิบัติงานเป็นฐานร่วมกันสามารถช่วยในการพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักศึกษาได้หรือไม่ วิธีการใดที่ผู้เรียนใช้ระหว่างกันในการพัฒนาการออกเสียง และทัศนคติที่ผู้เรียนมีต่อ
กิจกรรมการเรียนรู้ที่มาจากการปฏิบัติงานเป็นฐานร่วมกันเป็นอย่างไร กลุ่มตัวอย่างถูกคัดเลือกจากการสุ่มแบบเจาะจงประกอบไปด้วย นักศึกษาชั้นปี 2 วิชาเอกพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม จำนวน 4 คน เครื่องมือในการวิจัย
ประกอบด้วย แบบทดสอบการออกเสียง รูปแบบการสอน แผนการสอนที่ใช้การปฏิบัติงานเป็นฐานร่วมกัน แบบสังเกต และแบบสอบถามทัศนคติ เสียงท้ายคำที่ทำการศึกษาในงานวิจัยครั้งนี้คือ /s/, /z/, /f/, /v/, /S/, /T/, /D/, /tS/,และ /dZ/ผลการวิจัย
พบว่าการออกเสียงของนักศึกษาได้มีการพัฒนาระหว่างการเรียนรู้ ที่ใช้การปฏิบัติงานเป็นฐานร่วมกัน สองวิธีการที่นักศึกษาใช้ร่วมกันในการพัฒนาการออกเสียง คือ การแก้ไขการออกเสียงโดยผู้เรียนด้วยกันเอง และการอธิบายในสิ่งที่เรียนมา โดยใช้ภาษาถิ่นระหว่างกัน นักศึกษามีทัศนคติในด้านบวกต่อการเรียนรู้โดยการปฏิบัติงานเป็นฐานร่วมกัน เพราะการเรียนรู้วิธีนี้ก่อให้เกิดโอกาสในการฝึกการออกเสียงภาษาอังกฤษจากกิจกรรมที่หลากหลายที่มีความเหมาะสมกับระดับชั้นในการเรียนภาษาอังกฤษของนักศึกษา การเรียนรู้วิธีนี้มีส่วนช่วยนักศึกษาอย่างมากในการพัฒนาทักษะการออกเสียง ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์กับทักษะ
ทางการสื่อสาร นอกจากนี้นักศึกษายังมีบทบาทสำคัญในการคิดและเตรียมการรายงานหน้าชั้นเรียนและเรียนรู้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น

The purposes of this study were to investigate whether or not cooperative task-based learning could help students to improve their English pronunciation skills. The strategies students used among their peers to improve their pronunciation and students’ attitudes towards the learning activities based on
cooperative task-based learning were examined. The subjects, selected through the purposive sampling method, comprised four second-year students majoring in Physical Education in the Institute of Physical Education Mahasarakham. The instruments consisted of a pronunciation test, a teaching model, the lesson plans based on cooperative task-based learning, an observation form and an attitude questionnaire form. The final sounds focused in this study were /s/, /z/, /f/, /v/, /S/, /T/, /D/, /tS/, and /dZ/.
The findings showed that students’ pronunciation was improved during cooperative task-based learning. Two strategies students used among peers to improve their pronunciation were peer correction and lesson clarification by passing on what they had learnt by using their native languages. Students had
positive attitudes towards the learning activities based on cooperative task-based learning because it provided them a chance to practice English pronunciation through various activities appropriate for their English level. The learning activities greatly helped them to develop their pronunciation skills whichbenefited their communication skills. In addition, students had an important role in their learning; theythought for themselves, prepared their class presentations and learnt how to work with others.

Article Details

บท
บทความวิจัย