อำนาจและความรู้ กับสิทธิในการปฏิเสธการรักษาพยาบาลในวาระสุดท้ายของชีวิต

Main Article Content

ร่มธง สินธุประสิทธิ์
อภิรัตน์ กังสดารพร

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีที่มาจากงานวิจัยเชิงคุณภาพโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดในการใช้อำนาจและความรู้ของแพทย์ในการรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตและเพื่อศึกษาแนวทางที่เหมาะสมในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตผู้ให้ข้อมูลหลักประกอบด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง แพทย์ที่มีประสบการณ์น้อย พยาบาล ผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยรวมทั้งหมด 6 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกและใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปรากฏการณ์วิทยาผลการวิจัยพบว่าสังคมไทยมีวัฒนธรรมสุขภาพที่มุ่งไปสู่กระบวนการรักษาเพื่อยืดความตายออกไปให้นานที่สุด อำนาจและความรู้ในการรักษาได้จัดกระทำผ่านศาสตร์เฉพาะทาง และผ่านสถาบันทางสังคมทางการแพทย์มาเป็นเวลานาน ความเชี่ยวชาญดังกล่าวก่อให้เกิดความจำนนต่อการรักษา ซึ่งอาจไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของผู้ป่วยและนำไปสู่ความสูญเปล่าทางการแพทย์ได้ ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกท่านเห็นด้วยกับมาตรา 12แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ที่ระบุให้บุคคลสามารถทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพื่อการยืดการตายในวาระสุดท้ายของตนหรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้ แต่แพทย์ผู้ให้สัมภาษณ์มีข้อสงสัยต่อรายละเอียดบางคำในหนังสือแสดงเจตนา เช่น “ไม่รู้สึกตัวอย่างถาวร” ดังนั้น การพัฒนาระบบการดูแลรักษาแบบประคับประคองการให้นิยามปฏิบัติการของคำที่เกี่ยวข้องและการแนะนำผู้ป่วยให้มีความรู้เรื่องการเขียนหนังสือแสดงเจตนาจะช่วยให้เกิดแนวทางที่เหมาะสมในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตได้

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กฎกระทรวง. (2553). กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการ

สาธารณสุขที่เป็นไปเพียงเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิต หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย พ.ศ. 2553.

(7 พฤศจิกายน 2560) สืบค้นจาก http://www.thailivingwill.in.th/sites/default/files/022_livingwill.pdf.

กิตติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์, สัมภาษณ์, 3 กันยายน 2560

กิตติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์. (2560). ออกแบบความตายสร้าง "พินัยกรรมชีวิต" เพื่อความสุขสุดท้าย.

(3 กันยายน 2560) สืบค้นจาก https://www.matichon.co.th/news/650989.

ฉันทนา หมอกเจริญพงศ์. (2559). ความสูญเปล่าทางการแพทย์ (Medical Futility). กรุงเทพฯ : สามดีพริ้นติ้งอีควิปเมนท์.

นภัส คำนวน. (2558). ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับหน้าที่และจริยธรรมของแพทย์เมื่อผู้ป่วยใช้สิทธิปฏิเสธการรักษาในวาระสุดท้าย. คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, กรุงเทพฯ.

กระทรวงสาธารณสุข. (2553). พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550. (7 พฤศจิกายน, 2560) สืบค้นจาก https://www.nationalhealthor.th/sites/default/files/upload_files/hpp_act_e-book58_08_07_453.pdf.

พรเลิศ ฉัตรแก้ว. (2554). Advance care planning and living will. กรุงเทพฯ : ทีคิวพี.

ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์. (2559). “ไม่ยากที่ให้ สุขใจที่รับ”. กรุงเทพฯ : สามดีพริ้นติ้งอีควิปเมนท์.

สฤษดิ์ กิ่งแสง. (2557). มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิของผู้ป่วยในการปฏิเสธการรักษาพยาบาล.

วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 6(2), 164-174.

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2554). คู่มือผู้ให้บริการสาธารณสุข กฎหมายและแนวทางการ

ปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย. กรุงเทพฯ : ทีคิวพี.

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. (2558). คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดสิทธิการตายอย่างธรรมชาติ

กรณีกฎกระทรวงตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550. กรุงเทพฯ : สามดีพริ้นติ้งอีควิปเมนท์.

Doyle, D. & Woodruff, R. (2013). The Iahpc Manual Of Palliative Care. (March 23, 2018)Retrieved from https://hospicecare.com/uploads/2013/9/The%20IAHPC%20Manual%20of%20Palliative%20Care%203e.pdf.