ความก้าวหน้าของดุษฎีนิพนธ์ ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ในประเทศไทย

Main Article Content

เฉลิม เกิดโมลี

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความก้าวหน้าของดุษฎีนิพนธ์ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ในประเทศไทย แหล่งข้อมูลของการวิจัยคือดุษฎีนิพนธ์จำนวน 339 เล่ม จากสามสถาบันคือ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 207 เล่ม มหาวิทยาลัยรามคำแหง 112 เล่ม และมหาวิทยาลัยบูรพา 20 เล่ม

ผลการศึกษาพบว่า ดุษฎีนิพนธ์ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ของไทยมีความก้าวหน้าอยู่ในระดับปานกลาง คือผ่านเกณฑ์โดยเฉลี่ย 2.64 (จากทั้งหมด 6 เกณฑ์) หรือคิดเป็นร้อยละ 44 เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแล้วพบว่าดุษฎีนิพนธ์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ใดๆ ร้อยละ 16.8 (57 เล่ม) และผ่านทั้ง 6 เกณฑ์เพียงร้อยละ 3.3 (11 เล่ม) สำหรับการผ่านเกณฑ์มีรายละเอียดดังนี้ 1) ดุษฎีนิพนธ์มีเป้าหมายที่จะวิจัยพื้นฐานหรือทดสอบทฤษฎีร้อยละ 20.6 2) ประเด็นที่ศึกษามีความสำคัญต่อสาขาร้อยละ 76.1 3) เรื่องที่ศึกษาสร้างนวัตกรรมใหม่ร้อยละ 20.9 4) ดุษฎีนิพนธ์มีความตรงภายในและภายนอกร้อยละ 66.4 5) ดุษฎีนิพนธ์ทดสอบทฤษฎีร้อยละ 20.4 6) ดุษฎีนิพนธ์หาความสัมพันธ์เชิงเหตุผลร้อยละ 60.8

ผลการเปรียบเทียบพบว่า ดุษฎีนิพนธ์ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ของไทยล้าหลังกว่าดุษฎีนิพนธ์ของอเมริกา 20 ปี ในขณะที่ดุษฎีนิพนธ์ของจีนล้าหลังกว่าของอเมริกาและไทย 30 ปีและ10 ปีตามลำดับ นอกจากนั้นยังพบว่าดุษฎีนิพนธ์ของไทยมีวิธีการศึกษาที่ก้าวหน้า (49.2%) กว่าด้านประเด็นปัญหาที่ศึกษา (39.2%) ในขณะที่ดุษฎีนิพนธ์ในต่างประเทศมีความก้าวหน้าในประเด็นที่ศึกษา (48.3%) มากกว่าวิธีการศึกษา(37.3%) แนวโน้มนี้เป็นไปได้ว่าในอนาคตดุษฎีนิพนธ์ไทยจะมีลักษณะ “คุณภาพสูงแต่คุณประโยชน์ตํ่า” สำหรับแนวทางในการพัฒนาความก้าวหน้าของดุษฎีนิพนธ์นั้นต้องเน้นที่คุณค่าของประเด็นที่ศึกษามากกว่าเน้นความแข็งแกร่งในเชิงวิธีการศึกษาเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นวิธีการศึกษาวิจัยควรจะใช้วิธีการผสานวิธีมากขึ้น

 

Advances of Doctoral Dissertation in Public Administration in Thailand

The objective of this research was to analyze the advancement of the dissertations in the field of public administration in Thailand. The sources of data used for this research were 339 dissertations from one institute and two universities in Thailand, which were categorized into 207 dissertations from the National Institute of Development Administration (NIDA), 112 dissertations from Ramkhamhaeng University, and 20 dissertations from Burapha University.

The quality of the dissertations in Public Administration in Thailand from B.E. 2531-2555 was at moderate level to somewhat low. That is to say, it just passed the average range 2.64 (min 0, max 6). That is the research questions that aimed to strengthen the theoretical principles were found at low level. The importance of the subject studied towards the field of public administration was at the moderate level. The creative innovation was at low level. The validity was at moderate level. As for the theoretical testing, it was at low level, and the rational relationship was at moderate level. According to the dissertation quality, as comparing to the ones of the universities in other countries, it was found that the numbers of the minor topics studied were in accordance with the ones studied in other countries. The passing criteria indicated that the dissertations in public administrations from Thailand were at 2.64 which could be compared to the dissertations published in U.S.A in 1992 (2.82), and were more advanced than the dissertations in public administration published in China in 2008 (2.27).

Article Details

Section
Article