เรื่องเล่า : ชีวิตติดล้อกับเส้นทางสู่การเป็นพนักงานขับรถบรรทุกที่ได้รับรางวัลสุภาพบุรุษนักขับ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแบบอย่างที่ดีของพนักงานขับรถบรรทุกที่ได้รับรางวัลสุภาพบุรุษนักขับ ซึ่งเป็นรางวัลที่ให้ความสำคัญด้านการขับขี่ปลอดภัย โดยมีผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ คุณสุรศักดิ์ โคดคำ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศพนักงานขับรถบรรทุกประเภทหัวลาก ประจำปีพ.ศ. 2559 การประกวดจัดขึ้นโดยองค์กรเอกชนชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศไทย การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีวิทยาการศึกษาประวัติชีวิตและเรื่องเล่าโดยใช้การสัมภาษณ์รายบุคคล
ผลการศึกษาพบว่า 1) องค์ประกอบการเป็นสุภาพบุรุษนักขับตามมุมมองของ คุณสุรศักดิ์ โคดคำ มีดังนี้ คือ การขับรถโดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและเคารพกฎจราจร มีความรับผิดชอบต่อสังคม มีประสบการณ์ ทักษะและความชำนาญในการขับรถบรรทุก 2) กลยุทธ์การจัดส่งสินค้าให้ทันเวลาและปลอดภัยนั้น คือ การเตรียมความพร้อมของรถบรรทุก การเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจของคนขับรถ การตรวจสอบตารางงานและกำหนดการขนส่งสินค้า และสามารถจัดการสถานการณ์และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 3) วิธีการจัดการกับความเครียดในการทำงาน คือ การมีสติอยู่กับปัจจุบัน การได้พูดคุยระบายความเครียดกับเพื่อนร่วมงาน และการร้องเพลงบนรถ เพื่อคลายความเครียด และ 4) สิ่งที่ คุณสุรศักดิ์ โคดคำ ใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในการขับรถบรรทุกให้ปลอดภัย นั่นคือ ครอบครัว
Article Details
ทุกบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ร่มพฤกษ์เป็นทัศนะและข้อคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ทัศนะของมหาวิทยาลัยเกริกหรือกองบรรณาธิการ การนำบทความส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดไปพิมพ์เผยแพร่ต้องอ้างอิงที่มาให้ชัดเจน
เอกสารอ้างอิง
กรมการขนส่งทางบก. (2563). รายงานสรุปอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะประจําเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563.
(12 ธันวาคม 2563) สืบค้นจาก https://www.dlt.go.th/site/ltsb/m-ews/3937/view.php?_ did=24187.
กรมการขนส่งทางบก. (2564). รายงานการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกรอบ 6 เดือน ปีงบประมาณ 2564
(ตุลาคม 2563-มีนาคม 2564). (20 พฤษภาคม 2564) สืบค้นจาก https://web.dlt.go.th/statistics/.
ขจรศักดิ์ บัวระพันธ์. (2554). วิจัยเชิงคุณภาพไม่ยากอย่างที่คิด. พิมพ์ครั้งที่ 5. นครปฐม : สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้.
ชาย โพธิสิตา. (2562). ศาสตร์และศิลป์การวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
ปนัดดา ชำนาญสุข. (2553). รายงานวิจัยโครงการแต่งตำราอุบัติเหตุจราจรในบริบทสังคมและวัฒนธรรมไทย. (20 พฤษภาคม 2564) สืบค้นจาก https://www.roadsafetythai.org/edoc/doc_20181124110903.pdf.
พูนฤดี สุวรรณพันธุ์. (2558). ยุทธวิธีการจัดการกับความเครียดของบุคลากรในมหาวิทยาลัยเอกชน. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 1(1), 52-59.
ยุวดี ศิริยทรัพย์. (2563). ทางเลือกใหม่ของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ : ตัวแบบความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของงานและความพึงพอใจในการทำงานกับการทำนายความตั้งใจคงอยู่ในสายอาชีพของพนักงานขับรถบรรทุก. วารสารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ, 12(2), 172-201.
วรวุฒิ ไชยศร และ บุญสม เกษะประดิษฐ์. (2560). ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจกับการพัฒนาที่ยั่งยืน : กรณีศึกษาความรับผิดชอบต่อสังคม 6 บริษัท. วารสารปัญญาภิวัฒน์, 9(3), 140-152.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2559). รายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เรื่อง การปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน. (12 ธันวาคม 2563) สืบค้นจาก https://library2parliament.go.th/giventake/content_nrsa2558/d080259-02.pdf.
.
อำนาจ ธีระวนิช. (2555). หลักการจัดการ. นนทบุรี : มาเธอร์ บอสแพคเก็จจิ้ง.
Bogdan, R. C.& Biklen, S. K. (1992). Qualitative Research for Education : An Introduction to Theory and Methods. Boston : Allyn and Bacon.
Denzin, N. K. (1989). The Research Act. (3rd Ed). Englewood Cliffs, NJ, USA : Prentice-Hall.
Flick, U. (2002). An Introduction to Qualitative Research. London : Sage Publications.
Ganti, A. (2019). Social Responsibility. (May 20, 2564) Retrieved from https://www.investopedia.com/terms/s/socialresponsibility.asp.
Patel, P.M. & Deshpande, V. A. (2017). Application of Plan-Do-Check-Act Cycle for Quality And Productivity Improvement - A Review. International Journal for Research in Applied Science & Engineering Technology (IJRASET), 5(1), 197-201.
Yamak, S., Ergur, A., Karatas-Ozkan, M. & Tatli, A. (2019). CSR and Leadership Approaches and Practices : A Comparative Inquiry of Owners and Professional Executives. European Management Review, 16(4), 1097– 1114.