การปรับตัวภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของนักศึกษาปริญญาโท
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการปรับตัวในภาวะวิกฤติของนักศึกษาปริญญาโท กรณี สถานการณ์โรคระบาดโควิด-ไนน์ทีน (Covid-19) การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจโดยมีแบบสอบถาม (Questionnaire) เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างของประชากร กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาปริญญาโทของมหาวิทยาลัยรังสิต จำนวน 168 คน โดยผู้วิจัยได้ใช้ค่าสถิติเชิงอ้างอิงมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) ดังนี้ การวิเคราะห์ Independent – Sample t – test การวิเคราะห์ F – test การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนแบบทางเดียว One Way ANOVA และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression)
ผลจากการศึกษาพบว่า นักศึกษาปริญญาโทมีระดับความคิดเห็น ระดับการรับรู้ และระดับการปรับตัวในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผลจากการทดสอบสมมติฐานพบว่า ปัจจัยทางด้านประชากรศาสตร์ในด้านเพศ (F =3.438) อายุ (F =2.092) สถานภาพ (F =0.932) อาชีพ (F =0.807) หลักสูตรสาขา (F =2.524) และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน (F =1.779) ที่แตกต่างกันมีผลต่อการปรับตัวในภาวะวิกฤติของนักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยรังสิต กรณี สถานการณ์โรคระบาดโควิด-ไนน์ทีน (Covid-19) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และในด้านการความคิดเห็น (r =0.320) และด้านการรับรู้ (r =0.855) มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการปรับตัวในภาวะวิกฤติของนักศึกษาปริญญาโทมหาวิทยาลัยรังสิต กรณี สถานการณ์โรคระบาดโควิด-ไนน์ทีน (Covid-19) มีความสัมพันธ์เชิงบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล ถือว่าเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือรับผิดชอบใดๆ
References
กรมควบคุมโรคติดต่อ. (2563). โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). สืบค้นเมื่อ 15 มิถุนายน2564 จาก https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php
คณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา. (2563). รายงานการวิจัย เรื่อง ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเร่งด่วน ว่าด้วยการบริหารจัดการศึกษาในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ที่เหมาะสมกับสังคมไทย. สืบค้นจาก https://www.senate.go.th/assets/portals/132/fileups/241/files/รายงาน%20COVID%2019(2).pdf
ฉัฐวัฒน์ ชัชณาภัฏฐ์. (2563). การจัดการองค์การในภาวะวิกฤต กรณีโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19. วารสารวิชาการธรรมทรรศน์, 20(4) ; 199. วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น
ชนันรัตน์ ชัดไธสง. (2560). การปรับตัวของประชาชนในเหตุการณ์ความไม่สงบเขตพื้นที่เซฟตี้โซน. วิทยานิพนธ์ปริญญา ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคม. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชัยสิทธิ์ ทองบริสุทธิ์ และ ประยูร สุยะใจ. (2558). การปรับตัวในสถานการณ์วิกฤตของชีวิต. สถาบันพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
ธิษณา หาวารีและบุษรา โพวาทอง. (2565). การปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในภาวะวิกฤตโควิด-19 ระหว่าง พ.ศ. 2563-2564 ของโรงแรมในเขตพัทยาเหนือ กรณีศึกษาโรงแรมที่มีการบริหารแบบอิสระขนาดเล็กและขนาดกลาง. ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มนัสนันท์ ลิมปวิทยากุลและคณะ. (2558). การรับรู้ การเรียนรู้ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาของประชาชนไทย พ.ศ. 2558. วารสารควบคุมโรค, 41(4), 256. สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพกรมควบคุมโรค
สุชาดา พงศ์กิตติวิบูลย์. (2563). การรับรู้โอกาสเกิดภาวะวิกฤติ ระดับการทำลายและกลยุทธ์การสื่อสาร ในภาวะวิกฤติของบริษัทไทย. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 14(2), 149. สาขาวิชานิเทศศาสตร์คณะมนุษยศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา
องค์การอนามัยโลกประเทศไทย. (2563). โรคโควิด19คืออะไร. สืบค้นเมื่อ 15 มิถุนายน 2564
อรรถพล ศิริเวชพันธุ์. (2565). ศักยภาพในการปรับตัวเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนสู่มาตรฐานความปกติใหม่ภายใต้สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 : กรณีศึกษาบ้านเมืองจันทร์ อําเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล, 8(1).
Alma Harris. (2020). COVID-19-school leadership in crisis?. Journal of Professional Capital and Community
Rogers, C. (1967). Client Centered Therapy. Boston: Houghton Miffin.
Casey A Pollard, Michael P Morran, Andrea L Nestor-Kalinoski. (2020). The COVID-19 pandemic: a global health crisis. Physiological genomics
Slaikeu, K. A. (1990). (2nd ed.). Allyn & Bacon. Crisis intervention: A handbook for practice and research, 2nd ed.