การพัฒนากลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียน ในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ:
การพัฒนากลยุทธ์, การบริหารสู่ความเป็นเลิศบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและแนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย 2) พัฒนากลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย 3) ประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของกลยุทธ์ โดยดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 แบ่งเป็น 2 ขั้น ขั้นที่ 1 ศึกษาสภาพการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 240 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม โดยมีค่าความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 และค่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 0.87 วิเคราะห์ข้อมูล ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นที่ 2 ศึกษาแนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยที่มีแนวปฏิบัติที่ดี ผู้ให้ข้อมูล จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา (Content Analysis) โดยการเลือกแบบเจาะจง ขั้นตอนที่ 2 พัฒนากลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โดยการจัดประชุมกลุ่มสนทนา (Focus Group Discussion) โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ ร่างกลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย และเอกสารประกอบการประชุมกลุ่มสนทนา และตรวจสอบความเหมาะสมของกลยุทธ์ ดำเนินการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน ขั้นตอนที่ 3 ประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของกลยุทธ์ฯ ดำเนินการโดยนำกลยุทธ์ที่ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาว่าเหมาะสมมาเป็นเนื้อหาจัดทำเป็นแบบสอบถามความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์ จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ หัวหน้าสำนักผู้อำนวยการ และหัวหน้าฝ่ายวิชาการ จำนวน 64 คน
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพและแนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย โดยเฉลี่ยมีการดําเนินการอยู่ในระดับ มาก 2) กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย กลยุทธ์หลัก 3 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์หลักที่ 1 พัฒนาการบริหารจัดการโรงเรียนในเครือมูลนิธิฯ ให้มีประสิทธิ ภาพตามหลักธรรรมาภิบาลอย่างยั่งยืน มี 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อน 5 ตัวชี้วัด 5 โครงการ/กิจกรรม กลยุทธ์หลักที่ 2 เร่งรัดพัฒนาการบริหารทรัพยากรมนุษย์โรงเรียนในเครือมูลนิธิฯ ให้มีประสิทธิภาพตามทิศทางการจัดการศึกษาของนักบุญมงฟอร์ต มี 5 กลยุทธ์ขับเคลื่อน 4 ตัวชี้วัด 6 โครงการ/กิจกรรม และกลยุทธ์หลักที่ 3 ยกระดับคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนในเครือมูลนิธิฯ ให้มีมาตรฐานสากล บรรลุตามทิศทางการจัดการศึกษาของนักบุญมงฟอร์ต มี 4 กลยุทธ์ขับเคลื่อน 3 ตัวชี้วัด 7 โครงการ/กิจกรรม 3) ผลการประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของกลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยอยู่ในระดับมากที่สุด
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). แผนปฏิบัติราชการ 4 ปี (พ.ศ.2552-2555). กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2562). ข่าววงการศึกษา : ขับเคลื่อนแผนบูรณาการด้านการศึกษา 6 ภาค. สืบค้นจาก https://www.moe.go.th/moe/th/news
โกศล ดีศีลธรรม. (2546). กลยุทธ์และกลวิธีการเพิ่มภาพ. กรุงเทพฯ: เอ็กซเปอร์เน็ท.
ปรีชา ดาวเรือง. (2561). กลยุทธ์การจัดการศึกษาสู่ความเป็นเลิศของสถานศึกษาเอกชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล, นครราชสีมา.
มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย. (2559). แผนยุทธศาสตร์มูลนิธิเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ระยะ 6 ปี
(พ.ศ.2559-2564). กรุงเทพฯ: แปลนพริ้นติ้ง.
ราตรี ศรีไพรวรรณ และพฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์. (2555). การพัฒนากลยุทธ์การบริหารสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียน มาตรฐานสากล ระดับประถมศึกษา (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และสมชาย หิรัญกิตติ. (2545). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพฯ: ธรรมสาร.
ศุภลักษณ์ เศษธะพานิช. (2550). การพัฒนาระบบการบริหารที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศของสถานศึกษาเอกชน (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
เศกสรร สกนธวัฒน์. (2560). กลยุทธ์การบริหารโรงเรียนในเครือมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยตามแนวคิดการเสริมสร้างนักเรียนให้มีความเป็นพลเมืองดิจิทัล (วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
สมหมาย อ่ำดอนกลอย. (2556). บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 7(1), 1-7.
Compton. L. C. (2010). A Mother and Daughter Go to School: A Story of Strengths and Challenges. In M. Dantas & P. Manyak (Eds.). Learning from and with Diverse Families: Home-School Connections in a Multicultural Society, (pp. 59-75). New York: Routledge.
Gorton, G., & Rosen, R. (1995). Corporate Control, Portfolio Choice, and the Decline of Banking.
The Journal of Finance, 50(5), 1377-1420. https://doi.org/10.1111/j.1540-6261.1995.tb05183.x
Kaho, M. (2003). Decentralization and Marketization of Education in Singapore: A Case Study of the Excellence Model. Journal of Educational Administration, 41(4), 12-22.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Peters, T. J., & Waterman, R. H. (1982). In Search of Excellence: Lessons from America's Best-Run Companies. New York: Harper & Row.
Reed, L. L. (2010). Mustard Seeds as Means for Creative Problem Solving, Ethical Decision Making, Stakeholder Alliance, & Leader Development through Experiential Learning in Management Education. Developments in Business Simulations and Experiential Learning, 37, 310-320.
Retrieved from https://journals.tdl.org/absel/index.php/absel/article/view/324
Skipper, S. (2006). Conceptual Framework for Effective Inclusive Schools. Retrieved from
http://www.leadership.fau.edu/icsei 2006/Papers/skipper.doc
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2022 สิกขา วารสารศึกษาศาสตร์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.