การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมกูยบ้านกู่ ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ

Main Article Content

ธนพล วิยาสิงห์ วิยาสิงห์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชาวกูย บ้านกู่  ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ และ 2) เพื่อเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอย่างยั่งยืนของชุมชนชาวกูย บ้านกู่ ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 204 ครัวเรือน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัย  เชิงคุณภาพด้วยวิธีการสัมภาษณ์เขิงลึกแบบมีโครงสร้างจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key informant) จำนวน 14 คน นำข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกมาสังเคราะห์ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท (Content Analysis Technique) และนำเสนอผลการวิจัยแบบพรรณนาความ (Descriptive)


              ผลการวิจัยพบว่า


  1. สภาพปัจจุบันของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชนชาวกูย บ้านกู่ พบว่า ผลรวมของระดับการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก (xˉ =4.15, SD.=.83) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า  (1) การมีส่วนร่วมด้านการตัดสินใจอยู่ในระดับมาก (xˉ =3.99, SD.=.87) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การมีส่วนร่วมในการปรึกษาหารือและพิจารณาโครงการต่างๆ ที่อาจเกิดปัญหาต่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมกูยมีระดับมากที่สุด (xˉ =4.02, SD.=.88) เนื่องจากชาวกูยบ้านกู่ให้ความตระนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรมดั้งเดิม ทำให้เกิดความสำนึกรักและหวงแหนสิ่งที่ตนมีอยู่และเกรงว่าวัฒนธรรมอันดีงามนั้นจะสูญหายไปจึงเกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมกูยของชุมชนขึ้นอย่างต่อเนื่อง (2) การมีส่วนร่วมในด้านการดำเนินงานอยู่ในระดับมาก (xˉ=4.19, SD.=.83) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกับเยาวชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมกูยมีระดับมากที่สุด (xˉ = 4.38, SD.=.79) เนื่องจากปัจจุบันชาวกูยบ้านกู่ต้องการให้การอนุรักษ์วัฒนธรรมมีความยั่งยืนจึงได้ให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนให้เข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมกูยมากขึ้นในด้านการจัดให้เป็นมัคคุเทศก์น้อย การส่งเสริมให้มีการแต่งกายในโรงเรียนด้วยผ้าพื้นบ้านของชนชาติพันธุ์กูย ซึ่งเป็นสร้างการซึมซับทางวัฒนธรรม และความภาคภูมิใจในการสำนึกรักหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษได้เป็นอย่างดี และไม่ให้เกิดการสูญหายไปจากชุมชน (3) การมีส่วนร่วมในด้านการรับผลประโยชน์อยู่ในระดับมาก (xˉ = 4.36, SD.=.75) เมื่อพิจารณารายข้อพบว่า การมีส่วนร่วมในมีความยินดีและภาคภูมิใจเมื่อโครงการต่างๆ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน อยู่ในระดับมากที่สุด (xˉ = 4.46, SD.=.64) เนื่องจากการได้รับผลประโยชน์ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ที่ออกมารูปแบบใดก็ตาม ต่างก็สร้างความเป็นส่วนหนึ่งให้กับประชาชนที่มีบทบาทในการเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนั้นๆ ทำให้กิจกรรมต่างๆ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน ประชาชนต่างได้รับประโยชน์ในการดำเนินกิจกรรม และเกิดการพัฒนาเป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจวบจนปัจจุบัน และ (4) การมีส่วนร่วมด้านการประเมินผลอยู่ในระดับมาก (xˉ = 4.05, SD.=.89)  เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า การมีส่วนร่วมในการขอความร่วมมือให้องค์กรอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานพัฒนาชุมชน อยู่ในระดับมากที่สุด (xˉ = 4.14, SD.= .91) เนื่องจากชุมชนได้พัฒนาให้เป็นชุมชนท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษในการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว  ทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสนับสนุนส่งเสริมการทำกิจกรรมต่างจากองค์กรภายนอก โดยให้ความสำคัญของกิจกรรมที่ชุมชนได้รวบรวมและสร้างขึ้น ทำให้กิจกรรมเหล่านั้นได้รับการส่งเสริม และก่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาด้านต่างๆ ไปด้วย 

  2. แนวทางการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอย่างยั่งยืนของชุมชนชาวกูย บ้านกู่ ประกอบด้วย 8 แนวทาง (1) กระบวนการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูวัฒนธรรมกูย เกิดจากความร่วมมือ ร่วมใจของคนในชุมชนชาวกูยที่ตระหนักถึงปัญหาและมีแนวคิดในการแก้ไขปัญหาในทิศทางเดียวกัน (2) การส่งเสริมการอนุรักษ์ ปัจจุบันชุมชนชาวกูยบ้านกู่ดำเนินการส่งเสริมการอนุรักษ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับนโยบายจังหวัด โดยเริ่มจากการพัฒนาจากการสร้างพลังของคนในชุมชนกลุ่มเล็กๆ ก่อน และพัฒนาต่อยอดให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชน โดยนำต้นทุนชุมชนมานำเสนอเป็นฐานการท่องเที่ยว (3) กระบวนการมีส่วนร่วมในหน้าที่รับผิดชอบ เกิดจากการรวมกลุ่มเล็กๆ และดำเนินการแบ่งหน้าที่ตามความสามารถและความถนัด โดยแกนนำหลักในการขับเคลื่อนเป็นผู้นำชุมชนมีหน้าที่ในการมอบหมายประสานงานให้สมาชิกชุมชนเข้ามาร่วม โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การจัดการอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวกูยให้เกิดการพัฒนาและรักษารากเหง้าชาติพันธุ์ของตนเองให้ลูกหลานคนรุ่นหลังได้เห็นเป็นปณิธานของการทำงาน (4) กระบวนการมีส่วนร่วมในการวางแผนการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่มุ่งสู่อนาคต โดยชุมชนมีแนวทางในการวางแผนการดำเนินกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ คือ การให้ความสำคัญจากจุดเล็กๆ และเริ่มขยายเครือข่ายออกไป ให้สมาชิกที่เข้าร่วมเข้ามาด้วยความสมัครใจเพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่ยั่งยืน (5) กระบวนการประชาคม (6) การมองผลประโยชน์จากการอนุรักษ์วัฒนธรรมร่วมกัน ผลประโยชน์ร่วมกันของคนในชุมชน คือ ผลประโยชน์ที่เป็นความสุขทางจิตใจ และผลประโยชน์ที่จับต้องได้ อาทิ เศรษฐกิจชุมชนที่เป็นรายได้ของสมาชิกชุมชน (7) การเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคม ชุมชนมีแนวคิดในการเตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวจะทำให้สามารถเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคมได้เท่าทัน และ (8) การอนุรักษ์ที่ยั่งยืน แนวทางที่ดำเนินการในปัจจุบันของชุมชนชาวกูย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชนชาวกูยบ้านกู่   มุ่งไปที่คนเป็นหลัก โดยมีการนำเยาวชนและคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานมากขึ้น มุ่งเน้นนำเด็กและเยาวชนในชุมชนให้มาเรียนรู้วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ชุมชนซึ่งวิธีการดังกล่าวนี้จะเป็นการสืบสานการอนุรักษ์วัฒนธรรมกูยได้มั่นคงและยั่งยืน

Article Details

บท
Research Articles (บทความวิจัย)

References

Ariyasunton, S. (2010). Conservation or restoration of customs Local knowledge Good art and culture of the local area and Nation under the law on culture: a case study of the establishment of the cultural council under the National Culture Act 2010 in Independent study according to the Master of Political Science Program (Politics and government) Thammasat University.
Boonyopaddam, H and Mapraneed, B. (2013). Thaipuan Culture Conservation Participation of Administration Commission of Chalermrat Cultural Center (Fangklong Temple) Nakonnayok Province. College: Srinakharinwirot Univerity. [In Thai].
Chompupan, R. (2010). The Culture and Heritage Landscape Management : A Case Study of Lampang Municipality. Thesis: Master Degree. Collage : Silpakorn University. Bangkok: Silpakorn University. [In Thai].
Chusongdet, R. (2009). Sustainable Cultural Heritage Searching and Management in Pai-Pangmapa-Khunyuam Districts Maehongson Province. Online. Retrieved March 23rd, 2020 from http://www.abc- un.org/research/ view.php?resID=RDG50O0006. [In Thai].
Cohen & Uphoff. (1980). Effective Behavior in Organizations. New York: Richard D.
Irwin Inc.
Denmuanwong, W. (2000). Community : The Dynamic of Residents’ Participation for Self Community Development. Bangkok: Ramkamhaeng University.
[In Thai].
Noradee, T and et al. (2013). The Complete Research Report of Culture and Tradition Restoration for Appropriate Tourism Management of Gooi Community in Gu Village Gu Sub-District Prangku District Sisaket Province. Research Report: Bangkok: The Thailand Research Fund. [In Thai].
Pateeparakmanee, P. (2003). Residents’ Participation in Bangkhuntien Coast Community Development Bangkok. Thesis : Master of Liberal Arts. College : Applied Sociology Major Department of Sociology and Anthropology Graduate School Kasetsart University. Bangkok: Kasetsart University. [In Thai].
Pongpinyo, W. (2005). Local Wisdom for Community Strengthening : A Case Study of
Ampawan Village M.8 Samran Sub-Disrict Muang District Khonkaen Province. Research Report: College: Loei Rajabhat University. [In Thai].
Ponsin, P. (2012). Community Participation in Cultural Arts Management: A Case Study of Sommanat Community in Research and Development journal of Thammasat University. V.4, (2012). [In Thai].
Thanawut, O. (2012). Roles of Village Headmen in Learning Process of Community Woods Management in Huatoong Village Chiangdao District Chiangmai Province. Thesis: Master Degree (Public Administration). Chiangmai: chaingmai University. [In Thai].
Thongsuk, N. (2015). Peoples Participation in the Development of the Sufficiency Economy Village in Sikao District, Trang Province in Western University journal Humanities and Social Sciences. V.1, (No.3), September – November 2015.
Yuto, S. (2008). Residents’ Participation for Community Development of Bangkolaem Sub- District Bangkok. Thesis: Master Degree (Public Administration). Graduate School : Suansunantha Rajabhat University. Bangkok: Suansunantha Rajabhat University. [In Thai].