พิพิธภัณฑ์การเดินทัพทางไกลของกองทัพแดงแห่งตี๋ชิ่ง : วาทกรรมการเมือง เรื่องกองทัพแดงกับกลุ่มชาติพันธุ์ทิเบต
Main Article Content
บทคัดย่อ
พิพิธภัณฑ์การเดินทัพทางไกลของกองทัพแดงแห่งตี๋ชิ่ง จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการเดินทัพทางไกลของกองทัพแดงแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนระหว่างปี ค.ศ. 1934-1936 โดยมุ่งแสดงเรื่องราวของกองทัพแดงและกลุ่มชาติพันธุ์ทิเบตในตี๋ชิ่ง ขณะเดินทัพผ่านตี๋ชิ่งในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 1936 เมื่อพิจารณาในมุมมองทางวาทกรรมจะพบว่า พิพิธภัณฑ์ในฐานะพื้นที่แห่งการเรียนรู้ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบสร้างวาทกรรมทางการเมืองของรัฐบาลจีน โดยมีการประกอบสร้างและนำเสนอกองทัพแดงให้มีภาพลักษณ์เป็นวีรบุรุษผู้เป็นมิตรต่อประชาชน เป็นผู้ปลดแอกกลุ่มชาติพันธุ์ทิเบตให้หลุดพ้นจากความเป็นทาสและความล้าหลัง ตลอดจนนำพาความเจริญมาสู่สังคมทิเบตในตี๋ชิ่ง โดยกระทำผ่านกลวิธีการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ ดังนี้ 1) การฉายภาพอุปสรรคของการเดินทัพ เพื่อสะท้อนถึงวีรกรรมของกองทัพแดงและความโหดร้ายของพรรคก๊กมินตั๋ง 2) การเชิดชูวีรสตรีแห่งกองทัพแดง เพื่อเผยให้เห็นถึงอุดมการณ์ความคิดที่ทันสมัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีน 3) การถ่ายทอดเรื่องราวความสมานฉันท์ระหว่างกองทัพและประชาชน เพื่อวางรากฐานในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการปกครองกลุ่มชาติพันธุ์ของรัฐบาลจีน 4) การนำเสนอมิตรภาพระหว่างทหารแดงและลามะทิเบต เพื่อใช้ศรัทธาทางศาสนาสร้างอำนาจทางการเมือง และ 5) การสะท้อนภาพความเจริญรุ่งเรืองของตี๋ชิ่งในยุคเริ่มแรกของการปลกแอก เพื่อตอกย้ำคุณูปการที่วีรบุรุษกองทัพแดงได้สร้างไว้ระหว่างการเดินทัพในตี๋ชิ่ง วาทกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า อำนาจอาจไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปของการใช้กำลังบังคับเสมอไป แต่อาจถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของความรู้ และความจริง ดังเช่นการประกอบสร้างความรู้และความจริงในรูปแบบ “การเมืองเรื่องพิพิธภัณฑ์”
Article Details
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกบทความเพื่อการศึกษา แต่ให้อ้างอิงแหล่งที่มาให้ครบถ้วนสมบูรณ์
References
Baima, L. , Ciren, D. & Wang, C. (2005). The Central Government Authority Embody in The Implementation of The System of Living Buddha of the Tibetan Buddhism. Tibetan Studies, 1, 1-11. [In Chinese]
Charoensin-o-larn, C. (2011). Development Diccourse : Power Knowledge Truth Identity And Otherness. (5th ed.). Bangkok: Wipasa. [In Thai]
Committee of Thai History Retrieval in Chinese Literature. (2000). Principles of Sound
Transcription from Chinese Mandarin into Thai. Bangkok : Thammasat University Press.
Chotiudompant, S. (2017). Western Theories of Literary Criticism in 20th Century . (2nd ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [In Thai]
Guo, X. (2016). Following the Footsteps of Red Army’s Long March—Step into Diqing Museum of Red Army’s Long march. Corpus of Party History, 9, 28-34. [In Chinese]
Han, H. (2020). A Review of Long March Commemorative Activities since the Establish of thePeople ’s Republic of China. Theory and Reform, 2, 173-188. [In Chinese]
He, D. (2013). Red Army’s Ethnic and Religion Policies in Tibetan Ethnic minority areas in Yunnan inspiring on Establishment of Charming Tibetan Ethnic minority areas in Yunnan. “Building a Dream - Establishing Charming Yunnan”, Proceeding of The 7thAcademic Conference on Social Science of Yunnan Province, 225-231. [In Chinese]
He, D. (2017). Work on Ethnic Issue in The Early Post-Liberation in Diqing, Yunnan
Province. Journal of National Museum of China, 11,92-103. [In Chinese]
He, G. & He, M. (2017). The Profound Friendship between General Zhu De and Living Buddha Ge Da. Shiji Fengcai, 4, 3-8. [In Chinese]
Krongbun, S. (2019). The Role of His Holiness Dalai Lama for Peace in Tibet. Humanities and Social Sciences Journal, Ubon Ratchathani Rajabhat University, 7(2) , 363-381. [In Thai]
Li, L. (2018). Communist party of China’s Theories and Policies of Ethnic Minority areas’ Developments since Chinese Economic Reform. Journal of Shanxi Institute of Socialism, 3 , 12-17. [In Chinese]
Liu, Y. (2020). War of Baishi: The first Battle of central Red Army’s Long March. Dangyuan Wenzhai, 1 , 35-36. [In Chinese]
Rattanamankasem, A. (2005). Sexuality issues in 4,000 years of Chinese Culture . Bangkok: Sukapap Jai. [In Thai]
Rinchen Dolma Tarring. (2003). Daughter of Tibet. (2nd ed.). Translated by Seemon. Bangkok: Wiriya. [In Thai]
Tang, N. (2019). “Phenomenology of Museum: A theoretical suggestion for the ontology of museum exhibitions” Journal of Sociology and Anthropology, 38(1) , 31-49. [In Thai]
Tan, G., Li, M., Ma, B. Guo, H. & Meng, X. (1988). Overview on Ethnic Minorities’ Religions in China. Beijing: Central Nationality College Press. [In Chinese]