ผลการใช้การเล่านิทานในการพัฒนาความสามารถด้านการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักศึกษาวิชาชีพครู สาขาภาษาอังกฤษ (The impacts of using storytelling on student teachers’ pronunciation, English major)

Abstract

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการเล่านิทานต่อการพัฒนาการออกเสียงภาษาอังกฤษในนักศึกษาวิชาชีพครู สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 4 จำนวน 27 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยการเล่านิทาน 2) แบบวัดความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษก่อนและหลังการใช้กิจกรรมการเล่านิทาน และ 3) แบบบันทึกพัฒนาการในการออกเสียงภาษาอังกฤษของตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test และใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (content analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) ค่าประสิทธิภาพของกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้การเล่านิทานเพื่อพัฒนาความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษ มีค่าเท่ากับ 78.97/75.31 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพเครื่องมือที่กำหนดไว้ 75/75 2) ความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษของนักศึกษากลุ่มตัวอย่างสูงขึ้นกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) การใช้การเล่านิทานทำให้นักศึกษาตระหนักถึงพัฒนาการของตนเอง ซึ่งได้แก่ พัฒนาการด้านการออกเสียง พัฒนาการด้านความมั่นใจ พัฒนาการด้านการใช้เทคนิคการเล่านิทาน พัฒนาการด้านทักษะภาษาอังกฤษ ความสามารถในการวิเคราะห์ปัญหาและการแก้ไขปัญหาของการออกเสียงของตนเอง และการเห็นคุณค่าของนิทาน

This research aimed at studying the impact of using a storytelling approach on English pronunciation in order to develop speakers’ ability. The sample, recruited from the simple random method, included 27 student-teachers who were the English major students from the Faculty of Education, Phetchabun Rajabhat University. The research instruments comprised 1) lesson plans for using storytelling to develop students’ pronunciation ability; 2) the pre-test and the post-test for testing students’ pronunciation accuracy; and 3) students’ logbooks for self-development observation. The statistical measurements included means, standard deviation, and t-test, respectively. In terms of qualitative analysis, the content analysis method was adopted to analyze such data. This study revealed that 1) the efficiency criteria of the lesson plans were 78.97/75.31, which was higher than the expected criteria of 75/75; 2) the post-test average scores of those student teachers’ pronunciation ability were higher than the pre-test score at the 0.05 level of significance after being practiced by this approach; and 3) in terms of the qualitative findings, the respondents reflected their views on their English pronunciation development and problems, namely self-confidence development, storytelling technique development, English skills development in general, self-correcting and self-internalizing with regard to marked sounds, and acknowledging storytelling’s value.