แนวทางการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุขของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพ ปัญหา และแนวทางการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุข ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 โดยวิธีการดำเนินการวิจัย ตอนที่ 1 ศึกษาสภาพและปัญหาการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุขโดยการใช้แบบสอบถามซึ่งมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.60-1.00 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.713 สอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารและครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 1 จำนวน 97 แห่ง จำนวน 295 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตอนที่ 2 ศึกษาแนวทางการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุขข้อมูลได้มาจากการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุขจำนวน 9 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุข ในภาพรวมและทุกขั้นตอนอยู่ในระดับมาก ปัญหาการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุข ในภาพรวมและทุกขั้นตอนอยู่ในระดับน้อย 2) แนวทางการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อการเรียนรู้อย่างมีความสุข ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ได้แก่ (1) การเตรียมการและการวางแผนเกี่ยวกับหลักสูตรสถานศึกษาให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้เกิดความตระหนักถึงประโยชน์ และให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน (2) การดำเนินการเกี่ยวกับหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ความต้องการของชุมชน และความต้องการของผู้เรียน โดยในโครงสร้างหลักสูตรรายวิชาพื้นฐานจะต้องยึดตามตัวชี้วัดของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 แต่ในส่วนของความต้องการของชุมชน และความต้องการของผู้เรียนจะต้องนำมาสร้างเป็นรายวิชาเพิ่มเติม และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (3) การดำเนินการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาจัดภายใต้บรรยากาศที่ผ่อนคลาย การจัดการเรียนรู้ต้องมีความหลากหลาย ความรู้ที่ได้จากการจัดการเรียนการสอนนั้นต้องสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้ (4) การประเมินผลและปรับปรุงหลักสูตรสถานศึกษาครอบคลุมทุกๆด้านทั้งความรู้ ทักษะกระบวนการทำงาน และเจตคติ มีวิธีวัดและประเมินผลโดยดูจากสภาพจริงเน้นการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลับราชภัฏกำแพงเพชร
ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
เอกสารอ้างอิง
Boonseu, K., et al. (1997). Theory of learning happiness. Bangkok : National Office of Education.
Changkun, W. (2004). Brain-Based Learning. Bangkok : Amarin Printing & Publishing.
Itsara, B. (2007). Development of causal model of happy learning of Mathayom 6 students in Bangkok. Master’s thesis, Chulalongkorn University.
Lohakit, S. (2003). To study of learning mathematics using happy learning model in primary 3 at The Demonstration School of Khon Kaen University (Education) School. Master’s thesis, Khon Kaen University.
Neungchaleng, P. (2010). Education Programs. Mahasarakham : Mahasarakham University.
Ngoummaraporn, P. (2014). A study of curriculum and academic administration in private primary school with the royal award. Master’s thesis, Chulalongkorn University.
Office of the Education Council. (2015). Reform program learning to the learner. 2014-2017. Bangkok : Office of the Education Council.
Panichplinchai, T. (2014). Social science research methodology. Phitsanulok: Faculty of Education Naresuan University.
Pupan, S. (2003). Basic concepts of building and developing curriculums. Chiangmai : The Knowledge Center.
Ruksanitsakul, S. (2014). Guidelines for school administration to enhance happiness in the learning of stateless children. Master’s thesis, Chulalongkorn University.
Srisaard, B. (2011). Basic Research. Bangkok : Suveriyasan.
Suknikom, P. (2003). A study of the principals? Roles on school curriculum management of Phanakhon Si Ayutthaya. Master’s thesis, Phanakhon Si Ayutthaya Rajabhat University.
Vajiramedhi & Jumsai Na Ayudhya, A. (2010, February, 25). V.Vajiramedhi said that children suffering from a lot of Curriculum subjects but do not teach the life skills. komchadluek. [Online]. Available : http://www.komchadluek.net/news/edu-health/49877. [2016, August, 20].