เพลงมอญ : กรณีศึกษาครูสาธิต แสงบุญ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาเพลงมอญ : กรณีศึกษาครูสาธิต แสงบุญ โดยมีจุดมุ่งหมายของการวิจัยดังนี้ 1. เพื่อศึกษาชีวประวัติครูสาธิต แสงบุญ 2. เพื่อศึกษาเพลงมอญและเพลงเดี่ยวฆ้องมอญ ผลการศึกษาพบว่า 1) ครูสาธิต แสงบุญ เริ่มเรียนดนตรีไทยตั้งแต่อายุ 8 ปีกับครูสกล แก้วเพ็ญกาศ โดยเข้าร่วมพิธีจับมือฆ้องเพลงสาธุการ เพื่อเป็นการฝากตัวเป็นศิษย์ตามขนบธรรมเนียมดนตรีไทย และได้เรียนฆ้องวงใหญ่กับครูสกลเรื่อยมา ต่อมาครูสกลได้พาครูสาธิตไปเรียนฆ้องวงใหญ่กับครูสมาน ทองสุโชติ และในปี พ.ศ. 2513 ได้เรียนเพลงหน้าพาทย์ขั้นสูงสุดและเพลงเดี่ยวกราวในกับครูสอน วงฆ้องด้านเพลงมอญ ครูสาธิต แสงบุญ ได้เรียนกับครูเย็น เต๊ะอ้วน ครูปี่พาทย์เชื้อสายมอญ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้เรียนรู้และสะสมเพลงมอญต้นตำรับไว้หลายเพลง อาทิ เพลงย่ำเที่ยง เพลงประจำวัด เพลงประจำบ้าน เพลงพระฉันเช้า เพลงฉิ่งใหญ่(เพลงชุดพระฉันเพล) เพลงน้ำทอง เป็นต้น นอกจากนี้ ช่วงทำงานที่กรมศิลปากรยังได้มีโอกาสเรียนรู้เพลงมอญจาก ครูโชติ ดุริยะประณีต ม.ล.สุรักษ์ สวัสดิกุล และครูประดิษฐ์ หนูพิสิน อีกด้วย 2) ผลการศึกษาเพลงมอญประเภทเพลงประโคม เพลงมอญที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมและเพลงทั่วไป โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นดังนี้ (1) กลุ่มเสียงที่มีจำนวนโน้ต ลูกตกและบันไดเสียงเหมือนกันจะพบว่ากลุ่มที่เหมือนกัน 2 ครั้งพบมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่ม 3 ครั้ง 4 ครั้ง 6 ครั้งและกลุ่ม 8 ครั้งตามลำดับ เพลงประจำบ้านมีจำนวนโน้ต ลูกตกและบันไดเสียงเหมือนกันมากที่สุด (2) บันไดเสียงหลักของเพลงมอญคือ บันไดเสียง โด บันไดเสียง ซอล และบันไดเสียง ฟา โดยมีบันไดเสียง ที บันไดเสียง มี และบันไดเสียง เร เป็นบันไดเสียงรอง (3) ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเสียงกับวรรคเพลงพบว่า กลุ่ม 2 เสียงกับกลุ่ม 3 เสียงจะอยู่ในวรรคที่ 1 เป็นส่วนใหญ่ กลุ่ม 4 เสียง กลุ่ม 5 เสียง และกลุ่ม 7 เสียงจะอยู่ในวรรคที่ 1 และวรรคที่ 2 จำนวนใกล้เคียงกัน และกลุ่ม 6 เสียงจะอยู่ในวรรคที่ 2 เป็นส่วนใหญ่ เทคนิคการบรรเลงเดี่ยวฆ้องมอญส่วนใหญ่มีเทคนิคคล้ายกับการบรรเลงฆ้องไทย แต่จะมีเทคนิคที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในการเดี่ยวฆ้องมอญคือ การตีคู่ถ่าง (คู่เสียงที่มากกว่าคู่แปด) ซึ่งในเดี่ยวฆ้องมอญเพลงพญาโศกในครั้งนี้พบ คู่ถ่าง คู่ 9 จำนวน 3 ครั้ง และ คู่ 10 จำนวน 1 ครั้ง
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลับราชภัฏกำแพงเพชร
ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
เอกสารอ้างอิง
Samutprakran. Bangkok : Srinakharinwirot University.
Boonpuk, P. (2015). Pi-ie Part Monram. Nonthaburee : Information office Sukhothai
Thammatirat University.
Kaewbucha, M. (1999). An analytical study of the performance and practice of Mon
style Pleng Prajam Ban using Khong Mon Wong Yai. Thesis in Master. Arts (Music), Graduate School, Mahidol University.
O-charoen, S. (2009). The Mons in Thailand : The Evacuation of predicament and
Mons multiculture in siam. Bangkok : Thammasart University.
Phunsue, V. (2015). Pi-ie Part Mon. Bangkok : Srisanae printing.
Trade union of the teachers. (1962). The substantce, Majesty. Volume 18th, The
handwriting of His Royal Highness Prince Chitcharoen, The Prince Narisara Nuwattiwong and His Royal Highness Prince Ditsawarakuman, The Prince Damrong Rajanubhab. Bangkok : Trade union of the teachers printing.