ผลการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA) ที่มีต่อความเข้าใจในการอ่านและความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Main Article Content

รัชนี มูลงาม
วิมลรัตน์ ศรีสุข
วชิระ วิชชุวรนันท์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ได้แก่  1) เพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA) ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน       2) เพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA) ระหว่างหลังเรียนกับเกณฑ์  3) เพื่อศึกษาความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA) กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 21 คน โรงเรียนวังหวายวิทยาคม อำเภอสามเงา จังหวัดตาก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตากเขต 1 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 ที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง ใช้เวลาในการสอน  17  ชั่วโมง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA)  ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน    7 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง 4 แผน และแผนละ 3 ชั่วโมง 3 แผน 2) แบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยเป็นแบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ คะแนน รวม 30 คะแนน ใช้เวลาในการทำแบบทดสอบ 1 ชั่วโมง  3) แบบวัดความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ได้รับการเรียนรู้แบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA)  โดยเป็นแบบสอบถามตามวิธีของลิเคิร์ท มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ผลวิจัยพบว่า  1. นักเรียนได้รับการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA) มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  2. นักเรียนที่ได้รับการสอนแบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA) มีความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  3. นักเรียนที่ได้เรียนรู้แบบบูรณาการของเมอร์ดอก์ซ (MIA) มีความสนใจในการเรียนในระดับมาก

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)

เอกสารอ้างอิง

เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตากเขต 1, สำนักงาน. (2555). รายงานการประเมินคุณภาพทางการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อประกันคุณภาพผู้เรียน. [จุลสาร]. ตาก: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 1.
จรัญ รัตนศิลา. (2538). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษและความสนใจในการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ได้รับการสอนอ่านโดยวิธี MIA ที่ใช้สื่อการสอนแบบอรรถฐานและวิธีสอนตามคู่มือ. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
จันทร์เพ็ญ ชูแป้น. (2548). ผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการคิดในรายวิชาการอ่านภาษาฝรั่งเศส สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสายน้ำผึ้ง กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ฐิตินันท์ ประทุมนันท์. (2545). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ผลสัมฤทธิ์การอ่านภาษาอังกฤษและความคงทนในการจำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบรมราชินีนาถราชวิทยาลัยที่มีความสามารถทางภาษาอังกฤษแตกต่างกันโดยวิธีการสอนอ่านแบบ MIA. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ถนอม ชูบัว. (2545). การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจด้วยวิธีสอนอ่านแบบบูรณาการเมอร์ดอก์ซ MIA. [Online]. Available : http://www.myfirstbrain.com/teacher.view.aspx?ID=88808. [2556, มิถุนายน 10].
ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ, สถาบัน. (2551). การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ). กรุงเทพฯ: องค์การค้า สกสค.
_______. (2553). เอกสารการประชุมเรื่องการเตรียมความพร้อมในการจัดสอบวิชา O-NET และ A-NET. [แผ่นพับ]. ตาก: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตาก เขต 1.
บัณฑิต ฉัตรวิโรจน์. (2549). การสอนอ่านภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: ธนธัชการ.
ปิยวรรณ ทองอนันติวงศ์. (2548). ผลการสอนอ่านจับใจความภาษาอังกฤษโดยใช้หลักบูรณาการของเมอร์ด๊อก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
รจนา ชาญวิชิต. (2547). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยวิธีสอนแบบบูรณาการของเมอร์ด๊อกซ์ (MIA).ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วาสนา สวนสีดา. (2548). การเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สอนด้วยวิธีสอนแบบร่วมมือกันเทคนิค CIRC และวิธีสอนอ่านเพื่อการสื่อสาร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
อารีบัวคุ้มภัย. (2540).การสร้างแบบฝึกเพื่อเสริมทักษะการใช้ถ้อยคําในงานร้อยแก้ว สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5. วิทยานิพนธ์ศศ.ม. กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
อัจฉรา จารุจินดา. (2536). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้รับการสอนอ่านโดยวิธี MIA และวิธี PANORAMA. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
อัจฉรา สินธุโคตร. (2543). การเปรียบเทียบความเข้าใจในการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนโดยวิธี MIA กับวิธีสอนตามคู่มือครู. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สมบัติ จันทรครุฑ. (2548). การศึกษาผลการอ่านภาษาอังกฤษด้วยวิธี (MIA) ที่มีต่อความสามารถในการ อ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ ค.ม., มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ : นครสวรรค์
Murdorch, G. S. (1986). A More Integrated approach to the teaching of reading. English Teaching forum, 22(4), 9-15.