การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา

Main Article Content

นพวรรณ์ ไชยชนะ
สุขแก้ว คำสอน
ไชยรัตน์ ปราณี

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและวิเคราะห์ ข้อมูลพื้นฐานความสามารถในการคิดของผู้เรียนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา (2) ประเมินความต้องการจำเป็น ส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนต่อจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา (3) สร้างและพัฒนา รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา (4) ทดลองใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา และ (5) ประเมินผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างในการสอนจริง เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดชัยมงคล เทศบาลเมืองบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 1 ห้อง จำนวน 19 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย รูปแบบและคู่มือประกอบการใช้รูปแบบ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิด และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้รูปแบบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ Priority Needs Index (PNI) และการวิเคราะห์เนื้อหาผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานความสามารถในการคิดของผู้เรียนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษาคะแนนเฉลี่ยของสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา ด้านคุณภาพผู้เรียน สภาพที่เป็นจริงในปัจจุบัน “What Is” โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (= 3.17) ด้านการจัดการเรียนรู้ สภาพที่เป็นจริงในปัจจุบัน “What Is” จากผลการตอบแบบสอบถามของครูผู้สอน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= 3.98)นำมาเป็นข้อมูลในการร่างรูปแบบ 2) ประเมินความต้องการจำเป็น ลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น คะแนนเฉลี่ยและผลต่างของค่าเฉลี่ยของสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษาด้านคุณภาพผู้เรียนระหว่างสภาพที่เป็นจริงในปัจจุบันกับ สภาพที่ต้องการการส่งเสริม กำหนดโดยวิธี กำหนดโดยวิธี Priority Needs Index(PNI) ขนาดของความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ย (need) 7 ลำดับแรกคือทักษะการเชื่อมโยง ทักษะการตีความ ทักษะการสังเกต ทักษะการสรุปอ้างอิง ทักษะการสรุปย่อ เท่ากับ 6.55, 6.36, 6.36, 5.87, 5.69 ให้น้ำหนักต่อข้อร้อยละ 7 ทักษะการแปลความ ทักษะการให้เหตุผลมีค่าเท่ากับ 5.69, 4.89 ตามลำดับ ให้น้ำหนักต่อข้อร้อยละ 6 ส่วนที่เหลือให้น้ำหนักต่อข้อร้อยละ 5 ด้านการจัดการเรียนรู้ ลำดับแรกคือ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการฝึกฝนทักษะการคิดให้ผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้ส่งเสริมสมรรถนะในการคิดขั้นพื้นฐานสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เท่ากับ 2.98 3) รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา มีชื่อว่า “ IRASEA Model” มีองค์ประกอบ คือ หลักการ จุดประสงค์ สาระและกระบวนการ กิจกรรมและขั้นตอนการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และการวัดและประเมินผลมี 6 ขั้นตอน ดังนี้ (1) ขั้นสร้างความสนใจ (Interest) (2) ขั้นให้สะท้อนคิด (Refection) (3) ขั้นปฏิบัติกิจกรรม(Activity) (4) ขั้นนำไปสรุป (Summarize) (5) ขั้นวัดประเมิน (Evaluation) (6) ขั้นเชิญนำไปใช้ (Apply) ซึ่งผลการประเมินของผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 11 คน ตรวจรูปแบบและคู่มือ การใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา (IRASEA Model) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.85 จะได้ค่าสัดส่วนเท่ากับ 0.97 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าการใช้ประโยชน์ (Utility) ความเป็นไปได้ (Feasibility) ความเหมาะสม (Propriety) ความถูกต้อง (Accuracy) ทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.84, 4.82, 4.85, 4.87 ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษามีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้ 4) ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิดของผู้เรียนระดับประถมศึกษา มีคะแนนเฉลี่ยผลการสอบหลังเรียนของผู้เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5). ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนระดับประถมศึกษา หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมสมรรถนะในการคิด โดยภาพรวมผู้เรียนมีคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.86 จะได้ค่าสัดส่วนเท่ากับ 0.97 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย (Research Articles)

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ. (2543). การประเมินผลจากสภาพจริง. กรุงเทพฯ: กองวิจัยทางการศึกษา กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.
กรมวิชาการ. กองวิจัยทางการศึกษา. 2543. การวิจัยและพัฒนาศักยภาพของเด็กไทย. กรุงเทพฯ : คุรุสภาลาดพร้าว.
การศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงานคณะกรรมการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: สำนักนโยบายและแผนการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ.
กิตติคม คาวีรัตน์. (2553). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎ. วิทยานิพนธ์หลักสูตรและการสอนปรัชญาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
เกียรติสุดา ศรีสุข. (2552). ระเบียบวิธีวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 3 เชียงใหม่ : ครองช่างพริ้นติ้ง.
จิราภรณ์ พิมใจใส. (2553). “การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้าง ความรู้เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาล.” วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชนสิทธิ์ สิทธิ์สูงเนิน. (2551). คู่มือการบริหารศูนย์เรียนรู้โครงการมหาวิทยาลัยชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ. ชัยภูมิ : ส. วิทยาการพิมพ์.
ชนาธิป พรสกุล แคทส์ . (2544). รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น
ศูนย์กลาง.กรุงเทพ ฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชมนาด เชื้อสุวรรณทวี. (2553). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนคณิตสาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดขั้นสูงและจิตตนิสัยของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรและการสอนปรัชญาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2548). สื่อการสอนระดับประถมศึกษา ในเอกสารการสอนชุดวิชาสื่อการสอนระดับ ประถมศึกษา หน่วยที 8–15. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ทิศนา แขมณี. (2544). วิทยาการด้านการคิด. กรุงเทพฯ: เดอะมาสเตอร์กรุ๊ปแมเนจเม้นท์.
_______. (2555).ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มี
ประสิทธิภาพ.พิมพ์ครั้งที่ 15. กรุงเทพ ฯ : บริษัทด่านสุทธาการพิมพ์
นงลักษณ์ วิรัชชัย, สุวิมล ว่องวานิช และอวยพรเรืองตระกูล. (2547). การประเมินผลการปฏิรูปการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ.
นรินทร์ สังข์รักษา. (2555). การวิจัยและพัฒนาทางการศึกษา. นครปฐม : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร
ปรณัฐ กิจรุ่งเรือง .(2553). การพัฒนารูปแบบการสอนโดยใช้กรณีศึกษาทางศาสตร์การเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาวิชาชีพครู. วิทยานิพนธ์หลักสูตรและการสอนปรัชญาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
มาเรียม นิลพันธุ์. (2555). วิธีวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 6 นครปฐม : ศูนย์วิจัยและ พัฒนาทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
มนตรี แย้มกสิการ .(2546). การพัฒนารูปแบบการสอนเพื่อพัฒนาการคิดเชิงระบบของนิสิตปริญญาตรีสาขา เทคโนโลยีทางการศึกษา. วิทยานิพนธ์การวิจัยและพัฒนาหลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
รัตนะ บัวสนธ์. (2550). ทิศทางและอาณาบริเวณการประเมิน (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ราชบัณฑิตยสถาน (2555) พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ ฉบับราชบัณฑิต. กรุงเทพฯ: อรุณการพิมพ์.
วัชรา เล่าเรียนดี. (2555) . รูปแบบและกลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วิชัย วงษ์ใหญ่. (2551). กระบวนการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนภาคปฎิบัติ. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
สุปรียา ตันสกุล.(2540).ผลของการใช้รูปแบบการสอนแบบการจัดข้อมูลด้วยแผนภาพที่มี
ต่อสัมฤทธิ์ผลทางการเรียนและความสามารถทางการแก้ปัญหาของนักศึกษา ระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2.วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สุวัฒน์ชัย จันทร์เฮง. (2553). การพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมแบบผสมผสานสำหรับครูผู้ ฝึกนักศึกษาพิการทางสายตาเพื่อพัฒนาทักษะด้านการทำความคุ้นเคยกับ สภาพแวดล้อมและความเคลื่อนไหว. วิทยานิพนธ์ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต หลักสูตรและการสอน บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. พิมพ์ครั้งที่ 2. สำนักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โครงการ PISA ประเทศไทย. (2551). ตัวอย่างการประเมินผลวิทยาศาสตร์นานาชาติ: PISA และ TIMSS. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.).
สภาการศึกษา, สำนักงานเลขาธิการ. (2547). ข้อเสนอยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพฯ: เซ็นจูรี่.
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2554). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555 – 2559).
สมหวัง พิธิยานุวัฒน์. (2553). วิธีวิทยาการประเมิน : ศาสตร์แห่งคุณค่า (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ:
สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2546 ก.). สรุปผลการประชุมวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 27-28 ตุลาคม 2546 โรงแรมตรัง กรุงเทพฯ. (เอกสารอัดสำเนา).
______. (2546 ข.). สรุปความเห็นจากการประชุมเสวนาหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 5 จุด. พฤศจิกายน 2546. (เอกสารอัดสำเนา).
______. (2548 ก). รายงานการวิจัยการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานตามทัศนะของผู้สอน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. (ร.ส.พ.).
______. (2548 ข.). รายงานการวิจัยโครงการวิจัยเชิงทดลองกระบวนการสร้างหลักสูตรสถานศึกษาแบบอิงมาตรฐาน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์. (ร.ส.พ.).
สำนักผู้ตรวจราชการและติดตามประเมินผล. (2548). การติดตามปัญหาอุปสรรคการใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544. บันทึก ที่ ศธ 1217/2692 ลงวันที่ 19 กันยายน 2548.
John H. Clarke (1991) Using Visual Organizers to Focus on Thinking. “Journal of Reading, Vol. 34, No. 7, Thinking and Learning Across the Curriculum” (Apr., 1991), pp. 526-534.
Jones, B.F., Pierce, J. & Hunter, B. (1989). Teaching students to contruct graphie organizers. Educational Leadership, 46 (4) : 20-25
Joyce, B., Weil, M .& Showers, B. (1992). Models of teaching.Boston : Allyn and Bacon.
Keeves, J.P. (1997). Models and model building. In Keeves, J.P. (ed.). Educational
research, methodology and measurement : An International Handbook.
2nded.,Oxford : Pergamon Press.
Kittisunthorn, C., (2113). Standards-based curriculum: The first experience of Thai teachers. Doctoral Dissertation, Jamia Islamia University, Delhi, India.
McCarthy, Nesrin. (1991). “Learning Styles and School : Making It Happen, “Education Resources Informational. p 17 ; August.(ERIC NO : ED 340744)
Nutravong, R., (2112). School-based curriculum decision-making: A study of the Thailand reform experiment. Doctoral Dissertation, Indiana University, Bloomington. U.S.A.
Scott, Harry V. (1994). “A Serious Look at the 4 MAT Model,” Education Resources Information Center. p 16 ; 0ctober. (ERIC NO : ED 383654)
Stufflebeam, D.L. and Shinkfield, A.J. (2007). Evaluation theory, model , and applications.
San Fancisco : Jossey-Bass.
Yager, R. E. (1991, May). “The Constructivist Learning Model,” The Science Teacher. 58(6) : 52-57.