การพัฒนาแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อพัฒนาแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา และมีวัตถุประสงค์เฉพาะ ดังนี้ 1.เพื่อศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา 2. เพื่อพัฒนาแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methodology Research) ประกอบด้วย วิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยดำเนินการ 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 เพื่อศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา มี 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การสำรวจข้อมูลโดยการสังเคราะห์เอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมลูกเสือเพื่อศึกษาสภาพและแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา ส่วนที่ 2 การสำรวจข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเพื่อศึกษาสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ 1) ด้านการบริหารงาน 2) ด้านผู้กำกับลูกเสือ 3) ด้านหลักสูตรและกิจกรรมลูกเสือ 4) ด้านงบประมาณ 5) ด้านการติดตามผลการดำเนินงานลูกเสือ กลุ่มเป้าหมายในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ ผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน 62 คน และหัวหน้างานลูกเสือโรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน 62 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 124 คน ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาใน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41 จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดพิจิตร จำนวน 62 โรงเรียน ส่วนที่ 3 การศึกษาแนวทางการปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จ ของโรงเรียนต้นแบบลูกเสือ (Best Practices) โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 5 แห่ง ผู้ให้ข้อมูลประกอบด้วย ผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียน สถานศึกษาละ 1 คน หัวหน้างานลูกเสือของโรงเรียน สถานศึกษาละ 1 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 10 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-structured Interview) ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนาแนวทางการจัดกิจการลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา
โดยการสนทนากลุ่ม (Focus Group Discussion) และการตรวจสอบการประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ ของแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยเป็นผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียน จำนวน 62 คน และหัวหน้างานลูกเสือโรงเรียน จำนวน 62 คน รวมทั้งสิ้น 124 คน ผลการวิจัยพบว่า การศึกษาสภาพและแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษา พบว่า ความคิดเห็นของผู้อำนวยการลูกเสือโรงเรียนและหัวหน้ากิจกรรมลูกเสือโรงเรียน ที่มีต่อสภาพการดำเนินงานกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษาแต่ละด้าน ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ ด้านการบริหารงาน ด้านผู้กำกับลูกเสือด้านหลักสูตรและกิจกรรมลูกเสือ ด้านงบประมาณ และด้านการติดตามผลการดำเนินงานลูกเสืออยู่ในระดับปานกลางแต่มีค่าเฉลี่ยน้อย และแนวทางการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียนมัธยมศึกษาที่สร้างขึ้น ได้แก่ 1) หลักการและแนวคิดการบริหารงานลูกเสือ 2) การบริหารงานลูกเสือในโรงเรียน ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ ด้านการบริหารงาน ด้านผู้กำกับลูกเสือ ด้านหลักสูตรและกิจกรรมลูกเสือ ด้านงบประมาณ และด้านการติดตามผลการดำเนินงานลูกเสือ 3) กระบวนการจัดกิจกรรมลูกเสือในโรงเรียน ประกอบด้วย การวางแผน การปฏิบัติตามแผน การติดตามและประเมินผล การปรับปรุงและพัฒนา และการเป็นผู้นำ มีระดับผลแนวทางการประเมินความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลับราชภัฏกำแพงเพชร
ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
เอกสารอ้างอิง
Care for students in 4 regions. PSU : MD.
Brandt. (1999, October). Perception of Community Paticipation in Education On Canadian
Indian Reserver : An Issue of Self-Role Merge. Dissertation Abstract International, 64
(04), 1349A.
Buonson, R. (2009). Research and development of educational innovation. Bangkok :
Kham Samai.
Chantana, C. (1992). A Historical Analysis of the Policies Concerning Character
Building Activities in Primary Schools in Thailand (1921-1990). Dissertation for
Ph.D.in Education (fundamentals of Education), The University of Tsukuba.
Chaowachai, S. & Rachewin, C. (2018). Strategy of provincial scout club administration.
Journal Humanities and Social Sciences College, Pibulsongkram Rajabhat
University, 12(2), 581-595.
Department of Academic Affairs. Basic education curriculum. (2008). Core curriculum for
basic education 2008. Bangkok : Agricultural Cooperatives of Thailand.
Health Promotion Fund, Office. (2011). The hand of organizing the activities of the large
scout model that focuses on Life skills. Bangkok : Family Planning Association of
Thailand.
Hiranchat, C. (1998). Ordinary scout teaching and learning of teachers in schools.
N.P. : n.p.
His Highness HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn Crown Prince (2012). Scout Rally-Ordinary
Girl Guides The 19th big edition. Bangkok : Office of the Permanent Secretary for
Education Ministry of Education.
Khemkornnant, N. (2009). Strategic management (Revised version). Bangkok : SE-EDUCATION.
Kongnan, P. (2004). Scout activities - Girl Guides of educational institutions Under
the area office Nong Khai Education District 3. Nong Khai : Educational Management
Promotion Group County Office of Education Nong Khai District 3.
Maniwan, P. (2004). Teacher development in the management of large-scale ordinary
scout activities at Ban Cho Raka School Chaiyaphum Province. Independent study
report, Master of Education degree, Mahasarakrm University.
Ministry of Education,(2003). Guide for organizing student development activities.
Bangkok : Teachers Council of Ladprao.
National Scout Administration, Office of the Commission. (1966). Regulations of the National
Scout Committee on Government Scout courses and special courses. Bangkok : Teachers Council of Ladprao.
Nirat, R. (2005). State of problems in the administration of scout activities in schools
Under the Don Mueang District Office Bangkok. Master of Education Thesis
Phranakhon Rajabhat University.
Office of the Red Cross Scout and Student Affairs Office of the Permanent Secretary for
Education (2008). Criteria Assess the quality of scout work within the school. Bangkok : Office of the Welfare Promotion Committee And welfare of teachers and educational personnel.
Panasang, N. (2010). Scout activity management in educational institutions Roi Et
Educational Service Area Office District 3. Master of Education Thesis, College,
Roi Et Rajabhat University.
Phonwiang, S. (2012). The introduction of His Majesty's work to the King Administration of
basic education institutions. Ph.D. thesis Naresuan University.
Pongwarin, T. (2009). Developing 10 core competencies to become the top supervisor.
Nonthaburi : IDC Infographics Pro.
Saengchan, S. (2010). The study of the management of curriculum development
activities for scout activities in Basic school Under the office of Chaiyaphum
Educational Service Area Office 1. Thesis Master of Education Chiang Mai Rajabhat
University.
Sesow. F.W. & David. (1988). Vancleaf. Social Stydies and Youtli Organization : Partners in
the Development Of Civic Responsibility and Action. Chicago : Based on a paper
Presented at a Meeting of The Social studies, 1988. (ERIC CD-ROM NO.ED 299221).
Shinkwin, Anne. (2008). Two Boy Scout troops : The impact of the troop Cuture on What
Boys Learn. [Online]. Available : http://www.lib.umi.com [2008, December 12].
Somdej Si Saeng. (2002). Development of educational quality assurance promotion system
of the district office education. Phitsanulok : Naresuan University.
Suksiwong, S. (2008). Management : View from the executive. Bangkok : Wirat Edutainment.
Supachai Vijayakom suspended disease. (2004). Solve problems and improve work for
success. (Type 3). Bangkok : National Productivity Institute.
Surrak Leoppho. (2012). Scout activities in educational institutions Under the area office
Education Lamphun District 1. Master of Education Thesis Lampang Rajabhat University
Suthep, Wat Si. (2001). Leadership, theory and practice. Chiang Rai : Chiang Rai Rajabhat
University.
Study courses basic 2001. Bangkok : Ministry of Education. Thiam Chanpanich Phin Chai.
(MS.P.). Research methodology. Phitsanulok : Naresuan University.
Tirakanan, S. (2004). Creating tools for measuring variables in social science research,
guidelines for practice. Bangkok : Chulalongkorn University.
Wirot Sa Ratana. (2003). Educational administration. Bangkok : Thipwisut.
Witoon Sima Chokdee. (2002). TQM. Guide to quality organizations. Bangkok : TPA Folding
Leasing.
