รูปแบบการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียงลุ่มน้ำแม่วางตอนบน

ผู้แต่ง

  • ชูสิทธิ์ ชูชาติ ศูนย์ศึกษาศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ประเทศไทย
  • วรพล วัฒนเหลืองอรุณ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ประเทศไทย
  • กริช สอิ้งทอง คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ประเทศไทย

DOI:

https://doi.org/10.14456/rcmrj.2022.251150

คำสำคัญ:

รูปแบบการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียง , ลุ่มน้ำแม่วางตอนบน

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่อง รูปแบบการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียงลุ่มน้ำแม่วางตอนบน มีวัตถุประสงค์
เพื่อสร้างรูปแบบการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียงในสังคมชาวนา กำหนดแนวทางการตลาดในการประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียงในสังคมชาวนา และเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน งานวิจัยดังกล่าวเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยพื้นที่วิจัยอยู่ในเขตลุ่มน้ำแม่วางตอนบนซึ่งประกอบด้วย 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านโป่งสมิต บ้านห้วยอีค่าง บ้านห้วยตอง และบ้านขุนวาง สำหรับกลุ่มตัวอย่างการวิจัย ได้แก่ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญอย่างน้อยหมู่บ้านละ 10 คน โดยคัดเลือกจากตัวแทนชุมชน ผู้นำชุมชน คณะกรรมการชุมชน และ/หรือผู้อาวุโสที่อาศัยอยู่ในชุมชนไม่น้อยกว่า 10 ปี และ
ผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) ฝ่ายราชการ และฝ่ายเอกชนอย่างน้อย 10 คน โดยคัดเลือกจากหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียงของพื้นที่เป้าหมาย วิธีดำเนินการวิจัยด้วยการศึกษาแบบการวิจัยเพื่อสร้างชุดการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียงสอดคล้องกับภูมิสังคม โดยเน้นให้ชาวบ้าน ผู้มาเยือนหรือนักท่องเที่ยวเห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เกิดรูปแบบการพัฒนาร่วมสมัยที่เหมาะสมกับปัจจุบัน ผลการวิจัยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพในการท่องเที่ยวเชิงการเกษตรวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมสามารถสร้างชุดการท่องเที่ยว
บนวิถีชีวิต เช่น การท่องเที่ยวสวนผัก นาในหุบเขา การปลูกดอกไม้ การท่องเที่ยวชมวัฒนธรรมระบบเหมืองฝาย การท่องเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่ง สวนสตรอว์เบอร์รี่ และสวนกาแฟ การท่องเที่ยวแบบวิ่งเทรล (Trail Running) ในหุบเขา การจัดกิจกรรมโฮมสเตย์ รวมทั้งการจัดจำหน่ายผลผลิตในท้องถิ่น ในระบบการตลาด มีการจัดการตลาดทั้งในรูปแบบการขายตรง และขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในเมือง โดยเน้น
อัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวและมีระบบการขายทั้งในรูปแบบออนไลน์ (Online) และอ๊อฟไลน์ (Offline) เพื่อให้กลุ่มตลาดเป้าหมายเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด รูปแบบในการอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของลุ่มน้ำแม่วางตอนบน ควรประกอบด้วย การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์วิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมและภูมิปัญญา และการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยว ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวต้องกลมกลืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต การวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงงานวิจัยต้นน้ำ คือ การสร้างผลิตภัณฑ์หรือรูปแบบของการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดทรัพยากรในท้องถิ่นและการส่งเสริมการตลาด โดยมีข้อเสนอแนะ คือ การขยายพื้นที่วิจัยในลุ่มน้ำแม่วางตอนบนเพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตสังคมชาวนา และการเกษตรให้ดีขึ้นผ่านรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียง

Downloads

Download data is not yet available.

ประวัติผู้แต่ง

กริช สอิ้งทอง, คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ประเทศไทย

การศึกษา

พ.ศ. 2543 – 2545       ศศ.ม. (การจัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พ.ศ. 2538 – 2541       บธ.บ (การจัดการ) มหาวิทยาลัยพายัพ

 

ประสบการณ์การทำงาน

พ.ศ.2564 - ปัจจุบัน   อาจารย์ประจำหลักสูตรนวัตกรรมธุรกิจบริการ ภาควิชาบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

พ.ศ. 2562 - 2563     อาจารย์ประจำภาควิชาบริหารธุรกิจ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

พ.ศ. 2547 – 2562       อาจารย์ประจำภาควิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

พ.ศ. 2546 – 2547       เจ้าหน้าที่รับจองตั๋วเครื่องบิน ร้านผลแรกธุรกิจท่องเที่ยว

พ.ศ. 2543 – 2545       เจ้าหน้าที่แผนกทุนการศึกษา ฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ

พ.ศ. 2542 – 2543       เจ้าหน้าที่โครงการต่างประเทศ ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยพายัพ

เอกสารอ้างอิง

Bangkokbiznews. (2022). Bangkok Ranks Among the 10 best cities in Southeast Asia. Retrieved from https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/lifestyle_travel/1013734 (In Thai)

Chompoonoi, S. (2017). The Study of an Additional Value for A Community Based Tourism, The Case Study of Ban Chiang, Udon Thani. Bangkok: National Defence College. (In Thai)

Choochat, C., & Boonchai, T (2018). Royal Tourism into Sustainable development. Chiang Mai: King’s Philosophy for Local Development Center, Chiang Mai Rajabhat University. (In Thai)

Choochat, C. (2019). Tourism in Sufficiency Economy Manual. Chiang Mai: King’s Philosophy for Local Development Center, Chiang Mai Rajabhat University. (In Thai)

Choochat, C., et al. (2001). An Ecotourism Model for Wang River Area Project. Chiang Mai: Chiang Mai Rajabhat Institute. (In Thai)

Ministry of Tourism & Sports. (2019). Tourism Receipts from International Tourism Arrivals. Retrieved from https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=411

Ministry of Tourism & Sports. (2021). Tourism Statistic. Retrieved from https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=411 (In Thai)

Sukto, N., et al. (2015). Marketing an Introduction. (2nded.). Bangkok: Pearson Education Indochina. (In Thai)

The King’s Philosophy Inheritance Committee. (2017). The Driving Inheritance of The King’s Philosophy. Bangkok: The Secretariat of The House of Representatives. (In Thai)

UNWTO. (2019). World Tourism Barometer. Retrieved from cf.cdn.unwto.orglsiteslall/files/pdf/unwto_barom19_01january_excerpt.pdf

UNWTO. (2021). World Tourism Trends Report. Retrieved from https://thaibizchina.com/unwto-%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80/ (In Thai)

Wattanalaungarun, W. (2001). Agrotourism in Weir System of Local Wisdom: Case Study of Huay E-Khang Village, Mae Win Subdistrict, Mae Wang District, Chiang Mai Province. (M.A., Chiang Mai University). (In Thai)

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-08-30

รูปแบบการอ้างอิง

ชูชาติ ช., วัฒนเหลืองอรุณ ว., & สอิ้งทอง ก. (2022). รูปแบบการท่องเที่ยวในมิติเศรษฐกิจพอเพียงลุ่มน้ำแม่วางตอนบน. Community and Social Development Journal, 23(2), 138–154. https://doi.org/10.14456/rcmrj.2022.251150

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (RESEARCH ARTICLE)