การปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาลภายใต้แนวคิดของเจ้าหน้าที่ สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2

Main Article Content

นริสา วงค์แสน
สุณี หงส์วิเศษ

บทคัดย่อ

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับและเปรียบเทียบการปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาลภายใต้แนวคิดของเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้  คือ ข้าราชการ  พนักงานราชการ  ลูกจ้างประจำ  และลูกจ้างชั่วคราว  ที่ปฏิบัติงานในสำนักงานสรรพสามิตภาค 2 ประกอบด้วย สำนักงานสรรพสามิตเขตพื้นที่ 9 จังหวัด และสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2 ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรีเพื่อกำกับดูแล 9 จังหวัด ได้แก่  ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี และสมุทรปราการ จำนวน  680  คน  กลุ่มตัวอย่าง จำนวน  252  คน โดยการใช้สูตรในการคำนวณหาจำนวนกลุ่มตัวอย่างของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) และได้ทำการสุ่มตัวอย่างแบบสัดส่วน (Proportional Random Sampling)  เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ เกี่ยวกับธรรมาภิบาล 6 ประการ ได้แก่ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความคุ้มค่า หลักความรับผิดชอบ หลักความโปร่งใส และหลักการมีส่วนร่วม  ที่มีค่าความเชื่อถือได้เท่ากับ  0.879  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  คือ  การแจกแจงความถี่ ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์การทดสอบสมมุติฐาน ค่าสถิติที่ใช้คือ t - test  และ One – way  ANOVA


               ผลการวิจัยพบว่า  เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่  2  มีการปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล  อยู่ในระดับมากที่สุด  และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน  พบว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2  มีการดำเนินงานตามหลักคุณธรรมเป็นอันดับแรก รองลงมาคือ หลักความรับผิดชอบ หลักความโปร่งใส  หลักการมีส่วนร่วม หลักนิติธรรม  และหลักความคุ้มค่า ตามลำดับ ส่วนผลการเปรียบเทียบการปฏิบัติงานตาม  หลักธรรมาภิบาลของเจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 2  จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล  พบว่าเจ้าหน้าที่ที่มีเพศ  อายุ  ระดับการศึกษา  รายได้ต่อเดือน  ตำแหน่งในการปฏิบัติงาน และระยะเวลาในการปฏิบัติงานแตกต่างกัน  มีการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลไม่แตกต่างกัน

Article Details

บท
บทความวิจัย
Author Biographies

นริสา วงค์แสน, วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา

วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา

สุณี หงส์วิเศษ, วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา

วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา

References

กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง พ.ศ. 2551. (2551, 25 มกราคม). ราชกิจจานุเบกษา, เล่มที่ 125, หน้า 130.

กรมสรรพสามิต. (2559). ยุทธศาสตร์กรมสรรพสามิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559. เข้าถึงได้จาก : https://www.excise.go.th/cs/groups/public/documents/document/mjaw/mtmx/~edisp/webportal16200131757.pdf. วันที่ค้นข้อมูล: 25 กรกฎาคม 2559.

ทองสุข มาตย์คำมี. (2549). การบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต 2. ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

นิศากร ช่างสุวรรณ. (2554). การใช้ธรรมาภิบาลในการบริหารงานบุคคลตามทัศนะของบุคลากรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. งานวิจัยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สำนักทรัพยากรการเรียนรู้ คุณหญิงหลง อรรถกระวีสุนทร.

บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.

พระมหาธรรมรัตน์ ธรรมยาฤทธิ์. (2550). การดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลหนองคายจังหวัดหนองคาย ตามความคิดเห็นของคณะกรรมการชุมชน. รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.

พิสมัย คูศรีพิทักษ์. (2553). การปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาลและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของเทศบาลตำบลในเขตจังหวัดสกลนคร. รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

ระเบียบสำนักงานนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสร้างระบบบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี พ.ศ. 2542. (2542, 10 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่มที่ 116, หน้า 24.

รัตน์กรณ์ จีนบุตร. (2552). ความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอโพนสวรรค์. รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช. (2550). กรุงเทพ : สํานักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.

วุฒิพงษ์ บัวช้อย. (2553). การศึกษาต้นแบบการบริหารตามหลักธรรมภิบาลขององค์การบริหารส่วนตำบลในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์. งานวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์, สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ.