องค์ประกอบคุณลักษณะวัฒนธรรมองค์กรดิจิทัลของมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทย
คำสำคัญ:
องค์ประกอบ, วัฒนธรรมองค์กรดิจิทัล, มหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบคุณลักษณะวัฒนธรรมองค์กรดิจิทัลของมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทย ใช้ระเบียบวิธิวิจัยพรรณนา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ผู้บริหารในมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทยที่เป็นสมาชิกสมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย จำนวน 352 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามการวิจัยแสดงด้วยค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาคเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน
ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบคุณลักษณะวัฒนธรรมองค์กรดิจิทัลของมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทย ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ คือ โครงสร้างการทำงานสมัยใหม่ ระบบการจัดการสมัยใหม่ รูปแบบหรือสไตล์การทำงานสมัยใหม่ ค่านิยมร่วม กลยุทธ์สมัยใหม่ และทักษะดิจิทัล ซึ่งผลการตรวจสอบความสอดคล้องของโครงสร้างเชิงองค์ประกอบณลักษณะวัฒนธรรมองค์กรดิจิทัลของมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทยกับข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า ค่าวัดระดับความกลมกลืน คือ Chi-square () = 482.050; df = 578; p-value=0.17 (
/
)(CMIN/DF) = 0.855, GFI = 0. 912, AGFI = 0. 857, CFI = 1.00, RMSEA = 0.000 และ RMR = 0.015 แสดงว่ารูปแบบโมเดลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์
References
โครงการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยไทยสู่มหาวิทยาลัยดิจิทัล สถาบันคลังสมองของชาติ. (2565). มหาวิทยาลัยดิจิทัล. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 1 มีนาคม 2566 จาก https://du-knit.org/.
พิรุฬห์ภัค เนตรสืบสาย และนวรัตน์ การะเกษ. (2560). ความอยู่รอดปลอดภัยในภาวะชะลอตัวของมหาวิทยาลัยเอกชนไทย. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ. 16(3), 611-622.
พูลพงศ์ สุขสว่าง. (2557). หลักการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 6(2), 136 – 145.
ภานุรุจ คงศิริวัฒนา ชมสุภัค ครุฑกะ นวลละออ แสงสุข และวรนุช แหยมแสง. (2563). การวิเคราะห์องค์ประกอบคุณลักษณะวัฒนธรรมองค์กรดิจิทัลของ บริษัท พีทีทีดิจิตอล โซลูชั่น จํากัด. งานประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 12 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 9 - 10 กรกฎาคม 2563 (น.2167-2182). นครปฐม, ประเทศไทย.
สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชน. (2565). รายชื่อมหาวิทยาลัยสมาชิก. [ออนไลน์].สืบค้นเมื่อ 5 มกราคม 2566 จาก https://apheit.org/?p=1461.
อารีย์วรรณ อ่วมตานี. (2554). การพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยทางพยาบาลศาสตร์. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Bossert, O. (2016). A Two-Speed Architecture for the Digital Enterprise. In Emerging Trends in the Evolution of Service-Oriented and Enterprise Architectures, Vol. 111, pp. 139–150.
Duerr, S., Holotiuk, F., Beimborn, D., Wagner, H.-T., & Weitzel, T. (2018). What is Digital Organizational Culture? Insights from Exploratory Case Studies. 51st Hawaii International Conference on System Sciences, pp. 5126–5135.
Gimpel, H., Hosseini, S., Huber, R. X. R., Probst, L., Roglinger, M., & Faisst, U. (2018). Structuring Digital Transformation: A Framework of Action Fields and its Application at ZEISS. Journal of Information Technology Theory and Application, 19(1), 31–54.
Gaughan, D. (2016). Use Bimodal and Pace-Layered IT Together to Deliver Digital Business Transformation. In Gartner, Inc. [Online] Retrieved March 2, 2023, from https://www.gartner.com/en/documents/3414217
Hartl, E., & Hess, T. (2017). The Role of Cultural Values for Digital Transformation: Insights from a Delphi Study. Ludwig-Maximillians University of Munich.
Hooper, D., Coughlan, J., and Mullen, M. R. (2008). Structural Equation Modelling: Guidelines for Determining Model Fit. Electronic Journal of Business Research Methods, 6(1), 53-60.
Likert, R. (1976). New Patterns of Management. New York: McGraw - Hill.
Taro Yamane. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. (3rdEd). New York: Harper and Row Publications.
The McKinsey 7-S Framework. (n.d.). (2019). Retrieved January 4, 2019, Retrieved March 2, 2023, from: https://www.mindtools.com/pages/article/newSTR_91.htm.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว