โครงสร้างระบบการท่องเที่ยวเชิงกีฬาตามช่วงชั้นการพัฒนา: กรณีศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์
คำสำคัญ:
โครงสร้างและองค์ประกอบ, การท่องเที่ยวเชิงกีฬา, ช่วงชั้นการพัฒนาบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสถานการณ์และพฤติกรรม โครงสร้าง องค์ประกอบการ และนำเสนอกลยุทธ์การพัฒนาของนักท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัดบุรีรัมย์ก่อนและหลังสถานการณ์โควิด-19 วิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนา ซึ่งมีกระบวนการเก็บข้อมูลทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ) ผู้ให้ข้อมูลหลัก ภาครัฐ และผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยว มีประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักท่องเที่ยวที่ที่เคยมาเที่ยวและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์
ผลการวิจัยพบว่า1)สถานการณ์และการเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัดบุรีรัมย์ก่อน สถานการณ์โควิด-19 มีศักยภาพด้านทุนธรรมชาติและทรัพยากรท้องถิ่นที่โดดเด่น ทั้งด้านที่ตั้ง การคมนาคม วัฒนธรรม สิ่งอำนวยความสะดวกทางการท่องเที่ยวและความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่ สอดรับและส่งเสริมต่อการจัดกิจรรมต่างๆ2)โครงสร้างและองค์ประกอบการการท่องเที่ยวเชิงกีฬาตามช่วงชั้นการพัฒนาประกอบด้วย 1.ขั้นแนะนำ 2.ขั้นเจริญเติบโต 3.ขั้นอิ่มตัว 4.ขั้นตกต่ำ หรือถดถอย 3)กลยุทธ์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัดบุรีรมย์ที่เหมาะสมหลัง สถานการณ์โควิด-19 ประกอบด้วยวิสัยทัศน์ พันธกิจและ กลยุทธ์ 1) B – Believe สร้างความเชื่อมั่นในการจัดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา 2) R-Research มีการวิจัยและทำการศึกษาเกี่ยวการจัดการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของจังหวัดบุรีรัมย์อย่างต่อเนื่อง) 3) M- Management การบริหารจัดการในการจัดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา4) S – Standard มาตรฐานในการจัดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา5) P – Participation (การมีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน) 6) O – Organizing การจัดการองค์การ 7) R – Responsibility (จัดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ) 8) T - Technology and Innovation เทคโนโลยีและนวัตกรรม 9) K – Knowledge องค์ความรู้
เอกสารอ้างอิง
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560.). โครงการพัฒนารูปแบบทางธุรกิจของการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของไทย (Sports Tourism) ประจำปี 2560. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. กรุงเทพมหานคร. 18 – 36.
กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา. (2562). รายงานประจำ ปี 2562 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. พิมพ์ครั้งที่ 1 (1), กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, หน้า 52 – 144.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2554). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2555-2559.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2557). สถิตินักท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: กรมประชาสัมพันธ์. (2558). เปิดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ. สืบค้นจาก https://thainews.prd.go.th
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2559). แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2560 – 2564). พิมพ์ครั้งที่ 1, นนทบุรี: บริษัท ภาพพิมพ์ จำกัด, หน้า 34 – 40.
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2533). ความสำคัญ ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กรุงเทพฯ:
กุณฑิญา จิรทิวาธวัช. (2558). เที่ยวเมืองไทยเหมือนไปเมืองนอก: ปฏิสัมพันธ์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยกับธีมพาร์คแนวยุโรป (ดุษฎีนิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ.
เกศรินทร์ วิมลธาดา และจรัสพงศ์ คลังกรณ์. (2564). การจัดการส่งเสริมการกีฬาและการท่องเที่ยวสู่การพัฒนาเมืองของจังหวัดบุรีรัมย์. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(2), 410 – 425.
เกษม เพ็ญภินันท์. (2550). สู่พรมแดนความรู้เรื่องวัฒนธรรมบริโภค: ความเป็นปกติวิสัยของการบริโภควัฒนธรรมในชีวิตประจำวัน. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินทร.
แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยทั้งในแผนฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2558 - 2560) และฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 -2564)
ณิชาภัทร สุรวัฒนานนท์. (2562). การท่องเที่ยวกับบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ฮีโร่จำเป็นหรือ ฮีโร่ตัวจริง?. ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค, ธนาคารแห่งประเทศไทย.
อานนท์ สีดาเพ็ง (2559)กลยุทธิ์การจัดการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟโดยการประยุกต์ ทฤษฎีการแลกเปลี่ยนทางสังคมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่,วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา, 16(2) 83-90
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
