นวัตกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสอนแบบเน้นภาระงาน เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อออนไลน์ของนักเรียนประถมศึกษาช่วงชั้นที่ 2
คำสำคัญ:
1. นวัตกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสอนแบบเน้นภาระงาน 2. ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ 3. นักเรียนประถมศึกษาช่วงชั้นที่ 2บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสอนแบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อออนไลน์ของนักเรียนประถมศึกษาช่วงชั้นที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนก่อนและหลังการใช้นวัตกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสอนแบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อออนไลน์ของนักเรียนประถมศึกษาช่วงชั้นที่ 2 กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนประถมศึกษาช่วงชั้นที่ 2 เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 จำนวน 100 คน ได้มาจากวิธีการสุ่มตัวอย่างโดยเฉพาะเจาะจง ใช้สถิติวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าสถิติ t – test แบบไม่เป็นอิสระต่อกัน
ผลการวิจัย พบว่า 1) ประสิทธิภาพของนวัตกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสอนแบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อออนไลน์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 75.42/83.11 2) นักเรียนที่เรียนด้วยนวัตกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสอนแบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อออนไลน์มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3) นักศึกษามีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุกและการสอนแบบเน้นภาระงานเพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อออนไลน์โดยรวมอยู่ในระดับมาก
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 (ฉบับที่ 2)
และที่แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2545.กรุงเทพฯ: บริษัทสยามสปอรต์ ซินดิเค จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2553 (ฉบับที่ 3)
กรุงเทพฯ: บริษัทสยามสปอรต์ ซินดิเคท จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.
พิมพ์ครั้งที่ 3..กรุงเทพฯ. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ . (2564) . เอกสารออนไลน์ ผลการสอบ TOEFL ของคนไทย. ค้นเมื่อมีนาคม 15, 2566, จากhttps://www.moe.go.th
เกศราภรณ์ ลอยแก้ว. (2565). การพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษโดยวิธีการเรียนการ สอนเชิงรุก (Active learning) โดยใช้ การเรียนการสอนผ่าน Google meet Application ของนักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3/3 วิทยาลัยเทคโนโลยี เมืองชลบริหารธุรกิจ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564. ค้นเมื่อเมษายน 20, 2566, จาก
https://www.m-bac.ac.th/attachments/view/?attach_id=263210
เกรียงไกร ราวิชัย . (2562). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้แบบฝึก ทักษะ ชุด The Amazing Things Around Me เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ ความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ค้นเมื่อมกราคม 20, 2566, จาก https://www.kroobannok.com/board_view.php?b_id=174824&bcat_id=14
จิราพร ประพัศรานนท์ . (2557). การพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ แบบเน้นงานปฏิบัติ (Task-based learning) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. วารสาร การศึกษาและการพัฒนาสังคม ปีที่ 10 ฉบับที่ 1 ปีการศึกษา 2557
ชัยยงค์ พรหมวงศ์ ชัยยงค์ พรหมวงศ์ และคณะ. (2520). ระบบสื่อการสอน.กรุงเทพฯ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2545). 14 วิธีสอนสำหรับครูมืออาชีพ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
ทวีศักดิ์ ลินคำ . (2564). การพัฒนารูปแบบการสอนอ่านวิชาการด้วยกลวิธีการอ่านแบบร่วมมือและกล ยุทธ์การถามผู้เขียนเพื่อส่งเสริมความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษและการใช้กลยุทธ์การอ่าน สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี. วารสารวิชาการ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค. ค้นเมื่อ มีนาคม 10, 2566, จาfile:///C:/Users/User/Downloads/pensri2508,+%7B$userGroup%7D, +48.+%E0%B8%97%E0%B8 (1).pdf
บุหงา วัฒนะ. (2546). Active Learning. วารสารวิชาการ. 6(9): 30-34
ปรีชาญ เดชศรี. (2545). การเรียนรูปแบบ Active Learning : ทำได้อย่างไร. วารสาร สสวท. 30(116)
ปารวี งามอนันต์. (2564). ผลของการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานเป็นฐานที่มีต่อความสามารถในการอ่าน ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ค้นเมื่อมีนาคม 13, 2566 จาก
file:///C:/Users/User/Downloads/%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B4-105%20(2).pdf
เพ็ญนภา ตลับกลาง. (2562). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีสอน กิจกรรมเป็นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดเขียนเขต. ค้นเมื่อ มกราคม 20, 2566, จาก http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789 /2420/1/60254310.pdf
ภัทราดา เอี่ยมบุญญฤทธิ์. (2564). การพัฒนาชุดการสอนแบบ Active learning โดยใช้เทคนิค SQ3R เพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ปีที่ 32 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2564
โศภิตา เสนาธรรม. (2564). การพัฒนาทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค STAD ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัย นเรศวร.
Bonwell, Charles C., and James A. Eison (1991). Active learning: Creating excitement in the classroom. ERIC Digest. [Online] Available
Ellis, Rod. (2003). Task-Based Language Learning and Teaching. Oxford: Oxford University Press.
Maley.A. (1991). “ What’s ever next ? Some recent currents in Foreign language Teaching ” Foreign Language Teaching. 2, 39-50.
Nunan, D. (2004). Task-Based Teaching. Cambridge: Cambridge University Press.
Silberman, M. (1996) Ac-tive Learning: 101 Strategies to Teach Any Subject. Prentice Hall.
Willis, J. (1998). A Framework for Task-Based Learning. Longman: de Henseler Books.
เว็บไซร์ BLT Bangkok (2564) เอกสารออนไลน์ ระดับคะแนนความทางภาษาอังกฤษของคนไทย. ค้นเมื่อ มีนาคม 15, 2566 จาก https://www.bltbangkok.com/poll/5349/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
