แนวทางการจัดการโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนนายสิบตำรวจ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจปัจจัยส่วนบุคคลของนักเรียนนายสิบตำรวจ กำหนดองค์ประกอบการจัดการโภชนาการสำหรับนักเรียนนายสิบตำรวจ และได้แนวทางการจัดการโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนนายสิบตำรวจ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 ผู้วิจัยแบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย ปัจจัยส่วนบุคคลของนักเรียนนายสิบตำรวจ องค์ประกอบการจัดการโภชนาการสำหรับนักเรียนนายสิบตำรวจ และแนวทางการจัดโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนนายสิบตำรวจ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง โดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) ได้ขนาดตัวอย่าง 133 คน การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ และค่าเฉลี่ย
ผลการวิจัยพบว่า 1. ปัจจัยส่วนบุคคลของนักเรียนนายสิบตำรวจ ส่วนใหญ่มีอายุ 20 ปี มีค่าเฉลี่ยน้ำหนัก 65.02 กิโลกรัม ส่วนสูง 171.27 เซนติเมตร ค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว (BMI) มีค่าเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนใหญ่ฝึกและออกกำลังกายอย่างหนักประมาณอาทิตย์ละ 6-7 วัน 2. องค์ประกอบการจัดการโภชนาการสำหรับนักเรียนนายสิบตำรวจ ประกอด้วย 1) อัตราการเผาผลาญของร่างกาย (BMR) มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1,658 กิโลแคลอรี และ 2) ค่าของพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน (TDEE) มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2,860 กิโลแคลอรี 3. แนวทางการจัดโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนนายสิบตำรวจ ได้ค่าของการเผาผลาญพลังงานที่แปรผันตามกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน และได้ค่าของสารอาหาร ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต 1887 กิโลแคลอรี (471 กรัม) โปรตีน 486 กิโลแคลอรี (121 กรัม) และไชมัน 486 กิโลแคลอรี (54 กรัม)
เอกสารอ้างอิง
กัมปนาท คำสุข. (2562). พฤติกรรมการบริโภคอาหารต่อภาวะโภชนาการในเด็กนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองรังกา จังหวัดนครราชสีมา. การประชุมวิชาการระดับชาติ วิทยาลัยนครราชสีมา ครั้งที่ 6: สังคมสูงวัย โอกาสก้าวหน้าการศึกษาระดับอุดมศึกษา, นครราชสีมา, ประเทศไทย
กุลพร สุขุมาลตระกูล และลักษณิน รุ่งตระกูล. (2562). การประเมินภาวะโภชนาการและพฤติกรรมสุขภาพเพื่อส่งเสริมสุขภาพวัยรุ่นไทย. สำนักโภชนาการ กรมอนามัย.
ดนัตร์ สิทธิธัญญ. (2561). พฤติกรรมการบริโภคอาหารและอาหารเสริมของนักกีฬาจักรยาน จังหวัด เชียงใหม่. [วิทยานิพนธ์ปริญญาโท]. มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ.
ปิยาภรณ์ ตุ้มนาค. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะโภชนาการของนิสิตคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 13(4), 14-22.
พิสณุ ฟองศรี. (2551). การเขียนรายงานประเมินโดรงการ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: เพชรรุ่ง.
วิชยาภา เอี่ยมสวาง. (2557). การได้รับพลังงานและสารอาหารของนักเรียนในโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร. การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา: ขอนแก่น, ประเทศไทย.
ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5. (2559). แผนปฏิบัติราชการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560. ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 5.
สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล. (2560). กำหนดปริมาณอาหารที่เหมาะสมครอบคลุมกลุ่มคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุระดับพลังงานแตกต่างกันตามเพศ วัย และกิจกรรม. สืบค้นเมื่อ 1 ตุลาคม 2567 จาก https://repository.li.mahidol.ac.th/collections/222a4add-057f-4bcd-a2e1-abc5c544aab6
สุจาริณี สังข์วรรณะ และคณะ(2562). การประเมินความหลากหลายของรูปแบบอาหารว่างที่เป็นผลไม้ต่อการบริโภคผลไม้ชองเด็กวัยเรียน. การประชุมวิชาการระดับชาติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างสถาบัน ครั้งที่ 7: กรุงเทพฯ, ประเทศไทย.
สุจิตรา เกิดสุข. (2563). แนวทางการจัดโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับนักกีฬา. วิทยานิพนธ์คหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.
สุนันทา คเชศะนันทน์. (2562). แนวทางในการปรับปรุงรูปแบบการจัดอาหารในโรงเรียน. ปัญญาภิวัฒน์, 11(2), 177-192.
สุวิมล ตัณฑ์ศุภศิริ. (2548). สารอาหาร อาหารหลัก และการกำหนดรายการอาหาร. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อดิษา สังขะทิพย์ และสุวลี โล่วิรกรณ. (2560). พฤติกรรมการบริโภคอาหารและภาวะโภชนาการของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนในตำบลกุดปลาดุก อำเภอชื่นชม จังหวัดมหาสารคาม. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 19(1), 178-189.
Fit Design. (2567). โปรแกรมคำนวณอัตราการใช้พลังงานในแต่ละวัน. สืบค้นเมื่อ 1 ตุลาคม 2567 จาก https://www.fitdesignprime.com/calculator/
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of Psychological Testing (5th ed.). New York: Harper Collins Publishers.
Lovefitt, (2567) ที่มาhttps://www.lovefitt.com A2-bmi/#google_vignette
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ สถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค และคณาจารย์ท่านอื่นๆในสถาบันฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
