การศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักของโรงพยาบาลเซนต์เมรี่
Main Article Content
Abstract
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักของโรงพยาบาลเซนต์เมรี่ และ 2) เพื่อเปรียบเทียบคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักของโรงพยาบาลเซนต์เมรี่จำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การทำงานในโรงพยาบาลเซนต์เมรี่ และประเภทผู้ปฏิบัติงาน กำหนดกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็น บุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเซนต์เมรี่ จำนวน 235 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
ค่าความตรงตามเนื้อหาโดยมีค่า IOC ตั้งแต่ 0.67-1.00 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (Reliability) 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าคะแนนเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
(Std. Deviation) ค่าความแตกต่างทางสถิติ t-test และ F–test และวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว โดยใช้วิธีการของเชพเฟ่ (Scheffé’s Method) ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาระดับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักของโรงพยาบาลเซนต์เมรี่ พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (= 4.09) และรายด้านอยู่ในระดับมากโดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยตามลำดับ คือ ด้านความซื่อสัตย์ (= 4.31) รองลงมาด้านลูกค้า/ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง (= 4.18) พฤติกรรมบริการที่เป็นเลิศ (= 4.12) การทำงานเป็นทีม (= 4.10) การสื่อสาร (= 4.08) และการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง (= 3.76)
2. ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักของโรงพยาบาล
เซนต์เมรี่ ดังนี้
2.1 จำแนกตามเพศ พบว่า โดยภาพรวมมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยเพศหญิงจะมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักสูงกว่าเพศชาย
2.2 จำแนกตามระดับการศึกษา พบว่า โดยภาพรวมมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยบุคลากรที่มีวุฒิสูงกว่าปริญญาตรีจะมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักสูงกว่าบุคลากรที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี
2.3 จำแนกตามอายุ พบว่า โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า บุคลากรอายุ 31-40 ปี มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักด้านความซื่อสัตย์สูงกว่ากลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี
2.4 จำแนกตามประสบการณ์การทำงาน พบว่า โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า บุคลากรที่มีประสบการณ์การทำงาน 11 ปี ขึ้นไปมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักด้านความซื่อสัตย์สูงกว่ากลุ่มที่มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 5 ปี
2.5 จำแนกตามประเภทผู้ปฏิบัติงาน พบว่า โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า บุคลากรสายวิชาชีพมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของบุคลากรตามค่านิยมหลักด้านพฤติกรรมบริการที่เป็นเลิศ และด้านความซื่อสัตย์มากกว่าบุคลากรสายสนับสนุน
Article Details
I and co-author(s) certify that articles of this proposal had not yet been published and is not in the process of publication in journals or other published sources. I and co-author accept the rules of the manuscript consideration. Both agree that the editors have the right to consider and make recommendations to the appropriate source. With this rights offering articles that have been published to Panyapiwat Institute of Management. If there is a claim of copyright infringement on the part of the text or graphics that appear in the article. I and co-author(s) agree on sole responsibility.
References
กิตติกร ไทยใหญ่. (2553). คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของครู. สืบค้นเมื่อ 2 กรกฎาคม 2556, จาก http://www.dpu.ac.th/dpurc/download
ฉัตรยาพร เสมอใจ. (2545). การตลาดธุรกิจบริการ. (พิมพ์ครั้งที่ 1), กรุงเทพมหานคร: เอ็กซเปอร์เน็ท.
ทัศนีย์นารถ ลิ้มสุทธิวันภูมิ. (ม.ป.ป.). คุณลักษณะพึงประสงค์ของครูตามความคิดเห็นของนักศึกษาและอาจารย์ กรกฎาคม 2556, จาก http://www.dpu.ac.th/dpurc/ download
ผดุงศิษฐ์ ชํานาญบริรักษ์. (2552), รูปแบบการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรในการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ในชุมชน: กรณีศึกษาในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. ม.ป.ท.: ม.ป.พ.
ราชบัณฑิต. (2546). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2542 กรุงเทพมหานคร: นานมีบุคส์พับลิชั่นส์.
โรงพยาบาลเซนต์เมรี. (2555). แผนยุทธศาสตร์โรงพยาบาลเซนต์เมรี ปีพุทธศักราช 2556 - 2560. จังหวัดนครราชสีมา :
โรงพยาบาลเซนต์เมรี่,
สาวิตรี ยิ้มแย้ม. (2547). การสํารวจความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อการให้บริการของโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ อําเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี, โปรแกรมวิชาบริหารธุรกิจ (การตลาด) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี.
สิรนนท์ สรรเพ็ชร. (2553). เอกสารประกอบการคําบรรยาย “การให้คําปรึกษาเชิงอภิบาล” วันที่ 27-29 พฤษภาคม 2010 ณ ศูนย์อภิบาลคามิลเลียน ลาดกระบัง กรุงเทพฯ
สมบูรณ์ ตันยะ. (2542). ค่านิยมทางการศึกษาของไทย: อดีตอนาคตปัจจุบัน. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา.
Cruce, C.A. (1992). A Study of Communication among the Personnel of Church Related Entity and the Implication for Effective Leadership. 53(06): 1723: december.
Rokeach, M. (1968). Belief, attitudes and value: A theory of organization and change. New York: Jossey-Bass.