การพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ เรื่อง การแต่งเครื่องแบบทหาร
Keywords:
สื่อมัลติมีเดีย, สื่อเพื่อการเรียนรู้, การแต่งเครื่องแบบทหาร, multimedia, multimedia for learning, military uniformsAbstract
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ เรื่อง การแต่งเครื่องแบบทหาร และ 2) เพื่อประเมินประสิทธิภาพสื่อมัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ เรื่อง การแต่งเครื่องแบบทหาร วิธีการวิจัยดำเนินการ โดยใช้การวิเคราะห์เอกสาร เพื่อให้ได้หัวข้อและเนื้อหาในการพัฒนาสื่อ ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของหัวข้อ และเนื้อหาโดยการใช้วิธีการสนทนากลุ่ม ซึ่งเป็นการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า พบว่าหัวข้อและเนื้อหาจากทั้ง 2 วิธี เป็นไปในทิศทางเดียวกันการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้ เรื่อง การแต่งเครื่องแบบทหาร จัดทาขึ้นโดยใช้โปรแกรม Adobe Flash CS6, Adobe Photoshop CS6, และ Nero Wave Editor เนื้อหาของสื่อมัลติมีเดียแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การแต่งกายเครื่องแบบทหารบก การแต่งกายเครื่องแบบทหารเรือ และการแต่งกายเครื่องแบบทหารอากาศ สำหรับส่วนของการประเมินประสิทธิภาพจะทำการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน โดยผลการประเมิประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก ( = 4.73, S.D. = 0.78)
The development of “Military Uniforms” multimedia for learning
The objectives of this research were (1) to develop a learning multimedia about military uniforms; and (2) to evaluate the efficiency of the multimedia. The research methods involve document analysis and focus group analysis. The document analysis was used to find the topics and contents. The focus group analysis was used to verify the contents. Both methods were used for data triangulation, and the result shows conformity of the contents.
The multimedia was created by Adobe Flash CS6, Adobe Photoshop CS6, and Nero Wave Editor programs. The content was divided into three main parts: army uniforms, navy uniform, and air force uniform. The overall efficiency of the multimedia, evaluated by 5 experts, is very good ( = 4.73, S.D. = 0.78).
Downloads
How to Cite
Issue
Section
License
ข้อความที่ปรากฎในวารสารฉบับนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนแต่ละท่าน สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และกองบรรณาธิการ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยและไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ
สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ขอให้ผู้อ่านอ้างอิงในกรณีที่ท่านคัดลอกเนื้อหาบทความในวารสารฉบับนี้