The Results of Using an Experience Design Plan with Brain Gyms to Promote Happy Learning and Quality Study Behavior Students in the Field of Early Childhood Education who Study Language and Communication Activities for Early Childhood
Main Article Content
Abstract
The objectives of this research were: to develop and study results of using an experience design plan with brain exercises to promote happy learning and quality study behavior students in the field of early childhood education who study language and communication activities for early childhood. The target group used in the research is 55 first-year students in the Early Childhood Education Department, academic year 2021, who are enrolled in the course of language and communication activities for early childhood. The four research tools were the experiential activities planner with brain gyms, the behavior measurement of learning happily, the behavior measurement of efficient studying, and the student satisfaction questionnaire on learning activities according to experiential activities planner. Average, standard deviation and t-test were employed for data analysis.
The research findings were: 1) experiential activities planner of 6 steps: (1) warm-up, (2) problem identification, (3) individual exploration, (4) group work, (5) communication, and (6) debriefing. Meanwhile, the stage of pay attention to learning to happiness Quality inspection result of experiential activities planner was the most appropriate. Usage result of the planner also found that average score of learning behavior happily and efficient studying behavior after the implementation were 80% higher than the criteria. Moreover, the average score also was statistically significant higher than of it’s before at the .05 level.
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. All articles undergo a thorough with at least three reviewers evaluating their suitability within the respective field of study, during the double-blind review.
2. The views expressed by individual authors do not represent the official views of the Editorial Boards of RMUJ: The author of each articie is responsible for all its contents.
3. The Editorial Boards do not reserve the copyrights. but proper citations need to be made.
References
กิติยวดี บุญซื่อ. (2540). ทฤษฎีการเรียนรู้อย่างมีความสุขต้นแบบการเรียนรู้ทางด้านหลักทฤษฎีและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: ไอเดียสแคว์.
จรวยรัตน์ ขวัญรัมย์. (2545). ร่วมปฏิรูปการเรียนรู้กับครูต้นแบบ: การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการสอนแบบ “กระบวนการกลุ่มเล่น และเรียนคณิตศาสตร์ให้มีความสุข” ครูต้นแบบปี 2542 วิชาคณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: กองทุนรางวัลเกียรติยศแห่งวิชาชีพครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
จำนงค์ แจ่มจันทรวงศ์ และคณะ. (2560). ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะครูผู้สอนของนักศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตร สาขาวิชาชีพครู วิทยาลัยเชียงราย. วารสารฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะ, 10(1), มกราคม-เมษายน, สืบค้นจาก https://he02.tcithaijo.org/ index.php/Veridian-E-Journal/article/view/85541/68048
ธัญญารัตน์ สีน้ำคำ และคณะ. (2566). ผลการจัดการเรียนรู้พลศึกษา โดยใช้กิจกรรมพิลาทิสร่วมกับการบริหารสมองที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการคิดหลากหลายของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย (วิทยานิพนธ์ปริญญา ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญช่วย ภักดี. (2556). ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีความสุขที่เน้นการปฏิบัติ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละที่มีต่อความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและการเรียนรู้อย่างมีความสุข ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการมัธยมศึกษา). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เบญจมาพร อุ่นสุข. (2552). การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยบางประการกับการเรียนอย่างมีความสุข ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เขตกรุงเทพมหานคร เขต 1. ปริญญานิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยศึกษาและสถิติทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ผ่องลักษม์ จิตต์การุญ. (2543). สภาพปัจจัยในการสอนที่ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างมีความสุขสำหรับนักศึกษาโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ สถาบันราชภัฏกลุ่มภาคเหนือตอนล่าง. สถาบันราชภัฏพิบูลสงคราม: พิษณุโลก.
พินโย พรมเมือง และคณะ. (2566). การพัฒนาหลักสูตรสำหรับการพัฒนาศักยภาพครูด้านการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 5. วารสารสิรินธรปริทรรศน์, 23(2). กรกฎาคม-ธันวาคม. สืบค้นจาก https://so06.tcithaijo.org/ index.php/jsrc/ article/view/249653/174631.
พระธรรมปิฎก. (2536). ข้อคิดชีวิตทวนกระแส (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: ทุนส่งเสริมพุทธธรรม.
รุ่งทิวา จันทน์วัฒนวงษ์. (2557). ศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาคณะครุศาสตร์เกี่ยวกับกิจกรรมการเสริมสร้างการเรียนรู้อย่างมีความสุข. อุดรธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
รุ่งนภา กุลภักดี และคณะ. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคัดสรรกับการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักเรียนพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก. วารสารพยาบาลตำรวจ, 9(2), 115-127, กรกฎาคม-ธันวาคม.
ลำไย มากเจริญ. (2554). ปัจจัยทางจิตสังคมและความสุขใจที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพของนักศึกษาสาขาวิชาการบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. (ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
วิยะการ แสงหัวช้าง และคณะ. (2566). การบริหารสมองตามทฤษฎีนิวโรบิคส์ เอ็กเซอร์ไซส์ เพื่อส่งเสริมความจําแก่ผู้สูงอายุที่มีภาวการณ์รู้คิดบกพร่องเล็กน้อย. วารสารศูนย์อนามัยที่ 9, 17 (3), 856-867, กันยายน-ธันวาคม.
วิลาสินี คิดการ. (2554). ความเครียด ความพึงพอใจ และความสามารถในการปรับตัวของนิสิต/นักศึกษาระดับอุดมศึกษา ในประเทศไทย กรณีศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. วารสารบริหารธุรกิจเทคโนโลยีมหานคร, 8(2), กรกฎาคม-ธันวาคม.
ศักดิ์สิทธิ์ สีหลวงเพชร. (2544). ผลการประยุกต์ใช้รูปแบบการสอนการเรียนรู้อย่างมีความสุขในการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ศิริวัฒนา พูลสวัสดิ์. (2547). การศึกษาสภาพปัจจัยในการสอนที่สัมพันธ์กับการเรียนรู้อย่างมีความสุขของนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์จันทบุรี (ปริญญานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา). จันทบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏ รำไพพรรณี.
สถาบันศิลปวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนา (มายา). (2552). ดวงใจ มีมานะ. กรุงเทพฯ: สถาบันศิลปวัฒนธรรมเพื่อ การพัฒนา (มายา).
อารี พุ่มประไวทน์ และคณะ. (2561). ประสิทธิผลของโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพและการบริหารสมองต่อคะแนนการทดสอบสภาพสมองเบื้องต้นของผู้สูงอายุในชุมชน อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี. วารสารการพยาบาล การสาธารณสุขและการศึกษา วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พะเยา, 19(3). กันยายน-ธันวาคม.
Bloom, B. (1976). Human characteristics and school learning. New York: McGraw-Hill.
Boonsue, K. (1997). Delighted learning theory, learning prototype on theory and practice. Bangkok: Idea Square. [in Thai]
Gyurko, J., & Snow, M. (2020). Our “directive”: Quality teaching and learning. Change: The Magazine of Higher Learning, 52(5). 6-16, from https://doi.org/10. 1080/ 00091383.2020.1807873.
Oktodia Basuki, H., & Nur Faizah, H. (2020). The Effect of Brain Gym on the Learning Concentration of Student in STIKES NU Tuban. Journal Keperawatan, 11(1). 38-44, from https://ejournal.umm.ac.id/index.php/ keperawatan/article/view/10186/pdf_1.
Parkbongkoch, C. (2001). Joy enhanced parenting. Journal of Behavioral Science, 7(1). 29-34, [in Thai]
Paribatra na Ayudhya, D. (2006). Learning to excellence. Bangkok: RaklukeFamily Group. [in Thai]
Seeluangpetch, S. (2001). The results of application techniques for learning happily in science class for Matthayomsuksa 1 students (Master thesis). Khon Kaen: Khon Kaen University. [in Thai]
Waiyasusri, R. (2014). The use of brain-activation techniques for increased earning achievements. Bangkok: Dhurakij Pundit University. [in Thai]