การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมสมองเป็นฐานประกอบเกมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมสมองเป็นฐานประกอบเกมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมสมองเป็นฐานประกอบเกมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สมองเป็นฐานประกอบเกม กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนโคกประสิทธิ์วิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 6 คน ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 8 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 20 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.81 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.78 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการอ่านการเขียนของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมการเรียนสมองเป็นฐานประกอบเกมใช้สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า ตอนที่ 1 ผลการเรียนรู้กิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยโดยใช้กิจกรรมสมองเป็นฐานประกอบเกม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.08/92.50 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 ตามที่ตั้งไว้ทุกคน ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีนักเรียนทุกคนสนใจการเรียน มั่นใจในตนเอง ทำให้นักเรียนสามารถเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยได้ถูกต้อง และนักเรียนสามารถเขียนสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับการสะกดคำได้ ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านและเขียนคำพื้นฐานภาษาไทย โดยใช้กิจกรรมสมองเป็นฐานประกอบเกมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนมีคะแนนรวม เท่ากับ 63 คะแนน ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 10.50 คิดเป็นร้อยละ 52.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.26 และหลังเรียนมีคะแนนรวม เท่ากับ 111 คะแนน ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 18.50 คิดเป็นร้อยละ 92.50 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.38 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ตอนที่ 3 พฤติกรรมของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สมองเป็นฐานประกอบเกม อยู่ในระดับดี มีรายละเอียดดังนี้ นักเรียนมีพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม อยู่ในเกณฑ์ระดับดี โดยนักเรียนที่เก่งจะเป็นผู้นำกลุ่มวงรอบที่ 1 ในการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินการ และอธิบายวัตถุประสงค์ให้สมาชิกในกลุ่มเข้าใจ นักเรียนมีภาวะเป็นผู้นำซึ่งผู้นำกลุ่มมีการกำกับ ติดตาม สมาชิกในการดำเนินงาน และคอยกำซับมีการแบ่งหน้าที่กันเป็นอย่างดี ไม่มีใครเกี่ยงงานกัน มีการพูดคคุยกันอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีบางครั้งที่สมาชิก ไม่เข้าใจเป้าหมายร่วมกัน แต่ก็สามารถแก้ไขร่วมกันได้มีการปรึกษาหารือกันสม่ำเสมอระหว่างการดำเนินการ และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกลุ่มด้วย วงรอบที่ 2 นักเรียนพฤติกรรมการทำงานกลุ่มอยู่ในเกณฑ์ระดับดีโดยนักเรียนทุกคนมีความเข้าใจในเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของทีมทุกคนมีการผลัดกันเป็นผู้นำในกลุ่ม หรือมีผู้นำร่วมกันทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในการวางแผนการกิจกรรมกลุ่มก่อนดำเนินงานมีการแบ่งหน้าที่ทำงานสมาชิกในกลุ่มทุกคนทุกกลุ่มมีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ของตนเองมีการสื่อสารระหว่างบุคคลสมาชิกในกลุ่มทุกคนทุกกลุ่มมีการพูดคุยติดต่อสื่อสารที่เข้าใจกัน ปรึกษาหารือ สมาชิกในกลุ่มทุกคน ทุกกลุ่มมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังเพื่อนในกลุ่ม
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กฤตยากาญจน์ อินทร์พิทักษ์. (2562). การพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียนคำภาษาไทย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดสมองเป็นฐาน.(วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
นิลาภรณ์ ธรรมวิเศษ. (2546). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำในมาตราแม่กดสำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุบลราชธานี.
เบญจมินทร์ คนไว. (2565). การพฒันาความสามารถด้านการเขียนสะกดคำ เรื่อง คำพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานประกอบแบบฝึกทักษะของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
พัชรี สิทธา. (2561). การพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนคำพื้นฐานภาษาไทยของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้การเรียนรู้ที่ใช้สมองเป็นฐาน. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พิมลพร พงษ์ประเสริฐ. (2563). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านและการเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบของอันเตอร์ร่วมกับแบบฝึกษะ. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
รัชดากร หมื่นมะโน. (2565). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคําภาษาไทยไม่ตรงตามมาตรา โดยใช้เกมสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านห้วยสะลักวิทยา อำเภอแม่สร่วย จังหวัดเชียงราย. " วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ มจร วิทยาเขตแพร่. 8(1). 1-17.
สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. (2542). หลักภาษาไทย. (พิมพ์ครั้งที่ 14). กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช.
อรัญ ซุยกระเดื่อง. (2557). การวิจัยทางการศึกษา. มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.