แนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็ก ในยุคดิจิทัลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์การวิจัย 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการดำเนินการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล 2) ประเมินความต้องการจำเป็นในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล 3) พัฒนาแนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล 4) ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและครูในโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 291 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การจัดลำดับความสำคัญความต้องการจำเป็นแบบปรับปรุง (PNI Modified)
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล โดยรวมอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ย 3.96 2) ความต้องการจำเป็นของการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล ด้านที่มีค่าสูงกว่าค่าโดยรวม ได้แก่ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการพัฒนาสื่อนวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ 3) แนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล มี 5 ด้าน (1) ด้านการพัฒนาหลักสูตร (2) ด้านการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ (3) ด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และเทคโนโลยี (4) ด้านการวัดผลและประเมินผล (5) ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา 4) ประเมินความเหมาะสมของแนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขนาดเล็กในยุคดิจิทัล โดยรวมอยู่ระดับมากที่สุด และมีความเป็นไปได้โดยรวมอยู่ในระดับมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. บทความที่ลงตีพิมพ์ทุกเรื่องได้รับการตรวจทางวิชาการโดยผู้ประเมินอิสระ ผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) สาขาที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 3 ท่าน ในรูปแบบ Double blind review
2. ข้อคิดเห็นใด ๆ ของบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม นี้เป็นของผู้เขียน คณะผู้จัดทำวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
3. กองบรรณาธิการวารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ไม่สงวนสิทธิ์การคัดลอกแต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
เอกสารอ้างอิง
จรุณี เก้าเอี้ยน. (2557). เทคนิคการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา กลยุทธ์และแนวทางการปฏิบัติสำหรับผู้บริหารมืออาชีพ. พิมพ์ครั้งที่ 2. สงขลา : ชานเมืองการพิมพ์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในคตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสคศรี-สอบสฤษดิ์วงศ์.
สงบ อินทรมณี. (2562). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น. 16(1), 353-360.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1. (2567). แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2566-พ.ศ.2570 (ปรับรุง 2567). นครพนม: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2559). 80 ปีราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : สำนักงานราชบัณฑิตยสภา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ : บริษัทพริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and psychological measurement, 30(3), 607-610.
Likert, R. (1976). New Patterns of Management. New York: McGraw - Hill.