ผลของการฝึกการจินตภาพประกอบเสียงดนตรีบรรเลงเพื่อการผ่อนคลายที่มีผลต่อความเชื่อมั่นในตนเองและความแม่นยำในการยิงลูกโทษของนักกีฬาฟุตซอลชาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาผลของการฝึกจินตภาพเพื่อการผ่อนคลายร่วมกับดนตรีบรรเลงที่มีผลต่อความเชื่อมั่น
ในตนเองและความแม่นยำในการยิงลูกโทษของนักกีฬาฟุตซอลชาย มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี อายุ 18-22 ปี เพศชาย จำนวน 10 คน โดยกลุ่มตัวอย่างได้มาจากการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจงได้รับการฝึกจินตภาพเพื่อการผ่อนคลายร่วมกับดนตรีบรรเลง โดยการทดลองครั้งนี้ฝึกทั้ง 8 สัปดาห์ ๆ ละ 3 ครั้ง ๆ ละ 12 นาที เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย โปรแกรมการฝึกการฝึกจินตภาพเพื่อการผ่อนคลายร่วมกับดนตรีบรรเลง และแบบสอบถามความวิตกกังวลตามสถานการณ์ (CSAI-2R) โดยใช้สถิติทดสอบ Paired sample t-test
ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยของความเชื่อมั่นในตนเองและความแม่นยำในการยิงลูกโทษภายในกลุ่มทดลองก่อนการฝึกและหลังการฝึกแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ผลการฝึกจินตภาพเพื่อการผ่อนคลายร่วมกับดนตรีบรรเลงเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตนเองและความแม่นยำในการยิงลูกโทษของนักกีฬาฟุตซอลชายเพิ่มขึ้น
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการวิทยาลัยสันตพล ถือว่าเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือรับผิดชอบใดๆ
References
กรมพลศึกษา. (2556). จิตวิทยาการกีฬา. กรุงเทพฯ: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์.
ฉัตรกมล สิงห์น้อย. (2558). อิทธิพลของการใช้จินตภาพเพื่อการผ่อนคลายร่วมกับดนตรี 3 แบบที่มีต่ออัตราการเต้นของหัวใจ การตึงตัวของกล้ามเนื้อและความเร็วของระยะเวลาในการเข้าสู่ภาวะผ่อนคลายในนักกีฬา. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา, 15(2), 389-404.
ชาญวิทย์ อินทรักษ์. (2559). ผลของการฝึกจินตภาพประกอบเสียงดนตรีบรรเลงเพื่อการผ่อนคลายที่มีผลต่อการผ่อนคลายทางด้านร่างกาย ความวิตกกังวลตามสถานการณ์และความแม่นยำในการปาลูกดอกในนักกีฬาเยาวชน. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา, สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การออกกำลังกายและการกีฬา.
ชูศักดิ์ พัฒนมนตรี.(2546). จิตวิทยาการกีฬาและการนำไปใช้. วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬา, 4(43), 14-15.
นฤมล จันทร์สุข, & พีระพงศ์ บุญศิริ. (2561). ผลการฝึกจินตภาพที่มีต่อความแม่นยำของนักกีฬายิงธนูจังหวัดลำปาง. วารสารการศึกษาผลิตภัณฑ์, 23(1), 69-75.
รัชเดช เครือทิวา. (2553). ผลการฟังดนตรีควบคู่กับการฝึกจินตภาพที่มีต่อความแม่นยำในการยิงประตูโทษบาสเกตบอล. (ปริญญานิพนธ์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, บัณฑิตวิทยาลัย, สาขาวิชาพลศึกษา).
สลักจิตร คณะฤทธิ์, พลากร ชาญณรงค์, & พงษ์วรินทร์ เต็งยี่. (2564). ผลการฝึกเสริมความอ่อนตัวควบคู่กับการจินตภาพที่มีต่อความแม่นยำในการเสิร์ฟของนักกีฬาเซปักตะกร้อชายมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. วารสารราชภัฏเพชรบูรณ์สาร, 23(1), 69-75.
สุทธิชัย ปัญญโรจน์. (2553). ธรรมาภิบาล. พะเยา: สถาบันพัฒนาบุคลากรมหาวิทยาลัยนเรศวร.
Cassidy, J. W. (2009). The effect of decibel level of music stimuli and gender on head circumference and physiological responses of premature infants in the NICU. Journal of Music Therapy, 46(3), 180–190.
Robazza, C., & Bortoli, L. (2007). Perceived impact of anger and anxiety on sporting performance in rugby players. Psychology of Sport and Exercise, 8(6), 875–896.
Timothy, J. S. (2002). Relaxation visual imagery. Retrieved from http://www.makingchanges.com.au
Weinberg, R. S., & Gould, D. (1999). Foundations of sport and exercise psychology (2nd ed.). Champaign, IL: Human Kinetics.
Williams, D. A., & Carey, M. (2003). You really need to relax. https://www.med.umich.edu/painresearch/patients/Relaxation.pdf