ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยชุดการสอนทักษะปฏิบัติทางดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ตามแนวคิดของเดฟ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

Main Article Content

นที ปิ่นวิไลรัตน์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาชุดการสอนทักษะปฏิบัติทางดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ตามแนวคิดของเดฟ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาดนตรีก่อนเรียนและหลังเรียนที่โดยใช้ชุดการสอนทักษะปฏิบัติทางดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ตามแนวคิดของเดฟ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนวัดบางแสม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 1 จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 30 คน โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย ชุดการสอนทักษะปฏิบัติทางดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ตามแนวคิดของเดฟ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ชุดการสอนทักษะปฏิบัติทางดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ตามแนวคิดของเดฟ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 10 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางดนตรี แบบปรนัย ชนิดเลือก 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติที่ทดสอบ Paired Sample t-test ผลการวิจัยพบว่า


  1. ประสิทธิภาพของชุดการสอนทักษะปฏิบัติทางดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ตามแนวคิดของเดฟ สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 84.6/80.40 เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80

2. ผลสัมฤทธิ์วิชาดนตรีของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยชุดการสอนทักษะปฏิบัติทางดนตรีประเภทลิ่มนิ้ว ตามแนวคิดของเดฟ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05

Article Details

บท
Research Articles (บทความวิจัย)

References

Brahmawong, C (2013). Developmental Testing of Media and Intructional Package. Bangkok: Thai Watana Panich [In Thai]

Khemmani, T. (2017). Science of Teaching Pedagogy. Bangkok. Chulalongkorn University Press. [In Thai]

Kumchoo, P. (2012). Use of Carl Orff-Based Extra-Curricular Activities to Develop Music and Drama Skill of Primary School. Thesis Master of Education Technology Curriculum Research and Development Faculty of Technical Education. Rajamangala University of Technology Thanyaburi. [In Thai]

Landis, B. And Polly, C. (1972) The Eclectic Curriculum in American Music Education: Contributions of Daicroze, Kodaly, and Orff. Washington, D.C: Music Educators National Conference.

Ministry of Education. (2009). Basic Core Education Course 2008. Bangkok: Agricultural Cooperative Assembly of Thailand. [In Thai]

Phubanchuen, M. (2015). A Comparisons of academic Achievement Motivation of Leaning and Music skill Folk music Prathomsuksa 5 students taught by two Instructional Model: Simpson and Zotan Kodaly. Thesis Master of Education Curriculum and Instruction Faculty of Education. Mahasarakham University. [In Thai]

Pongern, S. (2011). A Proposed Model of Organizing Music Learning Courses for Grades 4 to 6 Students. Thesis Master of Education Music Education Faculty of Education. Chulalongkorn University. [In Thai]

Sarachan, W. (2018) The Music Learning Based on the Concept of Carl Orff together with Problem Solving Processes to Develop Music Practical Skill, Creative Thinking and Innovation Skill for Upper Secondary Student. Thesis Master of Education Curriculum and Instruction College of Education Sciences. Dhurakij Pundit University. [In Thai]

Sittuskun, P. (2017). The Development of Learning Achievement and Performance Skills on Keyboard of The Third Grade Students By Using the Intructional Package of Basic Music. Thesis Master of Education Curriculum and Instruction. Rajabhat Maha Sarakham University. [In Thai]

Sonsupap, N. (2014). Creating Instructional Package for Teaching Note-Reading on the Staff by Using the Imagination. Thesis Master of Master of Art College of Music. Payap University. [In Thai]

Suttachitt, N. (2018). Music studies, principles and themes. Bangkok. Chulalongkorn University Press. [In Thai]