ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนเต็มและความสามารถในการคำนวณจำนวนเต็มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และแบบปกติ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังจากได้รับการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และแบบปกติ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการคำนวณก่อนเรียนและหลังจากได้รับการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และแบบปกติ 3)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคำนวณที่ได้รับการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และแบบปกติ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม โดยการจับสลาก จำนวน 2 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคำนวณ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t-test independent ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และแบบปกติ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนเต็มหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และแบบปกติ มีความสามารถในการคำนวณจำนวนเต็มหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) กลุ่มทดลองมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องจำนวนเต็ม และความสามารถในการคำนวณจำนวนเต็มหลังเรียนสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลับราชภัฏกำแพงเพชร
ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
เอกสารอ้างอิง
Ministry of Education. (2008). Core education curriculum B.E. 2551. Bangkok : Office of Academic Affairs and Educational Standards
________. (2017). Core education curriculum B.E. 2551 and learning standards and indicators (Revised edition 2017). Bangkok : Office of Academic Affairs and Educational Standards.
Moolkum, S. & Moolkum, O. (2004). 19 learning management methods to improve knowledge and skills. Bangkok : Printed picture.
Namboonla, N. (2013). Analytical thinking and mathematics learning achievement The factor of a number Of prathom suksa six students in Ban Nang Tho Phatthana School From cooperative learning management (STAD). Master's thesis North Bangkok University.
Panano, A. (2012). Cooperative Learning, STAD Techniques for Developing Mathematical Communication Skills of Grade 5 Students. Master of Education Thesis Graduate school Chiang Rai Rajabhat University.
Ritchoo, N. (2016). Cooperative learning management, STAD techniques on function derivatives Group learning mathematics Grade 6. Master of Thesis Graduate school University, Rangsit University.
Saiyot, I. & Saiyot, A. (2003). Techniques for measuring learning. Bangkok : Suwiriyasarn.
Suphasiri, Y. (2010). A comparison of the result of learning activity management in mathematics learning subject of probability Grade 10 with STAD cooperative group with normal learning. Master of Education thesis Graduate school Maha Sarakham University.
