การสร้างแบบสอบวินิจฉัยการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สร้างแบบสอบวินิจฉัยการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย และ (2) วิเคราะห์ข้อบกพร่องที่พบในการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวหารร่วมมากและตัวคูณร่วมน้อย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตสวนหลวง ปีการศึกษา 2566 จำนวน 295 คน โดยใช้การสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบวินิจฉัยการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาคุณภาพของแบบสอบและคำนวณค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบสอบวินิจฉัยการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เป็นแบบสอบอัตนัย จำนวน 6 ข้อ ที่ใช้วินิจฉัยการแก้โจทย์ปัญหาทั้งหมด 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์โจทย์ ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา ขั้นที่ 3 การแก้โจทย์ปัญหา และขั้นที่ 4 การตรวจสอบคำตอบ คุณภาพของแบบสอบ มีค่าความตรงเชิงเนื้อหาทุกข้อเท่ากับ 1.00 ค่าความยากอยู่ในช่วง 0.58-0.80 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ในช่วง 0.62- 0.87 และค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.93 และ 2) ข้อบกพร่องในการแก้โจทย์ปัญหาที่พบ นักเรียนส่วนใหญ่มีข้อบกพร่องในการแก้โจทย์ปัญหาในขั้นที่ 4 การตรวจสอบคำตอบมากที่สุด โดยนักเรียนขาดความเข้าใจในวิธีการของการหาความสัมพันธ์ระหว่างคำตอบกับการตรวจ
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร สักทอง : วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลับราชภัฏกำแพงเพชร
ข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในวารสารเป็นวรรณกรรมของผู้เขียนโดยเฉพาะ ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรและบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
เอกสารอ้างอิง
Department of Education, Bangkok. (2023). Educational statistics report, school of Bangkok Metropolitan, education year 2023. Bangkok: Mahachulalongkornrajavidyalaya Press. [In Thai]
Kanjanawasee, S. (2013). Classical test theory. (7 th ed.). Bangkok: Chulalongkorn University Press. [In Thai]
Kotchawan, J. (2018). Diagnosis of mathematical deficiencies in fractions of number for grade 6 students Watthanaprueksa School. [Online]. Available: http://www.edu-journal.ru.ac.th/index.php/abstractData/viewIndex/2230.ru [2023, January 1]. [In Thai]
Manochongsawat, C. (2016). Diagnosing misconceptions in mathematics regarding applications of linear equations in one variable of Mathayom 2 students at Sarasas School under the Office of the Private Education Commission. [Online]. Available: http://www.edu-journal.ru.ac.th/index.php/abstractData/viewIndex/17.ru [2022, January 1]. [In Thai]
Ministry of Education. (2017). Indicators and subjects of learning core Mathematics learning Group (Revised version2017) according to the core curriculum of basic edcuation, B.E. 2551. Bangkok: The Agricultural Co-operative Federation of Thailand. [In Thai]
National Institute of Educational Testing. (2022). Report on the results of National Educational Test (O-NET). [Online]. Available: http://www.niets.or.th [2023 May 1]. [In Thai]
The Institute for the Promotion of Teaching Science and Technology. (2021). Manual for using the mathematics subject group curriculum (revised edition 2017) according to the Basic Education Core Curriculum, B.E. 2551. Bangkok: SKSC Printing House, Lat
Phrao. [In Thai]
The Office of Academic and Educational Standards Office of the Basic Education Commission (2010). Guidelines for measuring and evaluating learning outcomes according to the Basic Education Core Curriculum, B.E. 2551. Bangkok: Agricultural Cooperative Assembly of Thailand Printing Office. [In Thai]
Wonephuree, W. (2013). A construction of mathematics learning diagnostic test on material 4: algebra to solve the problems with equation for Prathomsuksa 6 students. Master thesis Educational Administration Srianakharinwirot University. [In Thai]
