The Hospitality Marketing Mix development guidelines towards Tourists needs : Mae Sai Pa Meing Village, Long Khod Sub-district, Prao District, Chiang Mai Province

Authors

  • ศิริรักษ์ ยาวิราช คณะบริหารธรุกิจและศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
  • ชรัญญา สุวรรณเสรีรักษ์ Faculty of Business and Liberal Arts, Rajamangala University of Technology Lanna
  • เก็จวลี ศรีจันทร Faculty of Business and Liberal Arts, Rajamangala University of Technology Lanna
  • ศุภวัชร์ อินฝาง Faculty of Business and Liberal Arts, Rajamangala University of Technology Lanna
  • รุจิรา สุขมณี Faculty of Business and Liberal Arts, Rajamangala University of Technology Lanna

DOI:

https://doi.org/10.14456/rcmrj.2018.149449

Keywords:

Hospitality Marketing Mix, Tourists’ needs, Mae Sai Pa Mieng

Abstract

              This research aimed to study the development hospitality marketing mix for the needs of tourists in Mae Sai Pa Meing, Long Khod Sub-district ,Prao District, Chiang Mai Province. The qualitative data were collected by group interview from 10 samples . The male samples were 3 and  female samples were 7. The experimental  was the travel program for 2 days 1 night.

 The samples were divided into 2 groups: 1) The group will return to the place and 2) The group is uncertain to return to the place or will not come back to the place . The main factors which make the samples return to the place are people. They shared the same opinion about the friendliness and helpfulness of people. The other factors are beautiful products, the abundance of nature ,good culture, the traditional way of living and physical presentation which is clean. It is an important selling point if it has been updated to be more convenient and safety. In addition, standardized processes, fast, communication and convenient distribution channels  will help to promote Mae Sai Pa Meing to be well known more quickly.

References

1. ทัศนียา บริพิศ. (2560). การบริหารจัดการท่องเที่ยวท้องถิ่น : Retro-Retro Market ตลาดน้ำเมืองลิกอร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารบริการและการท่องเที่ยวไทย, 12(2), 71-79.

2. ธีระ สินเดชารักษ์ และ นาฬิกอติภัค แสงสนิท. (2556). การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ : การรับรู้ของนักท่องเที่ยวความพร้อมของเจ้าของกิจกรรม และความเป็นไปได้ของการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในประเทศไทย. คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

3. ปนันดา จันทร์สุกรี, นลินี พานสาตา, ไพลิน เชื้อหยก และ นิตินัย รุ่งจินดารัตน์. (2560). การจัดการความรู้ด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ : กรณีศึกษาชุมชนตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม. วารสารวิทยาลัยดุสิตธานี, 11(3), 49-62.

4. มาโนช นวลสระ. (2559). การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒณธรรมอย่างยั่งยืน : กรณีศึกษาวัฒนธรรมไทลื้อ. วารสารวิจัยราชภัฏเชียงใหม่, 17(2), 5-26.

5. มติชนออนไลน์. (2561). ททท.เชียงใหม่ ตั้งเป่าปี 60 รายได้เพิ่ม 10% นักท่องเที่ยวเข้า 10 ล้าน. สืบค้นจาก http://www.matichon.co.th

6. รัฐนันท์ พงศ์วิริทธิ์ธร. (2558). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อความยั่งยืน : โครงการหลวงปางดะ. วารสารเทคโนโลยีสุรนารี, 9(1), 19-36.

7. สุดถนอม ตันเจริญ. (2560). การจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนกับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของชุมชนบางขันแตก จังหวัดสมุทรสงคราม. วารสารวิชาการการท่องเที่ยวไทยนานาชาติ, 13(2), 1-24.

8. สำนักงานสถิติจังหวัดเชียงใหม่. (2561). ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่. สืบค้นจาก http://chiangmai.nso.go.th/

Downloads

Published

2018-12-26

How to Cite

ยาวิราช ศ., สุวรรณเสรีรักษ์ ช., ศรีจันทร เ., อินฝาง ศ., & สุขมณี ร. (2018). The Hospitality Marketing Mix development guidelines towards Tourists needs : Mae Sai Pa Meing Village, Long Khod Sub-district, Prao District, Chiang Mai Province. Community and Social Development Journal, 19(2), 125–135. https://doi.org/10.14456/rcmrj.2018.149449

Issue

Section

บทความวิจัย (RESEARCH ARTICLE)