หน่อซื่อแหล่ะ เครื่องดนตรีลาหู่
DOI:
https://doi.org/10.14456/rcmrj.2017.209291คำสำคัญ:
ชาติพันธุ์, ลาหู่, ดนตรี, หน่อซื่อแหละบทคัดย่อ
หน่อซื่อแหล่ะเครื่องดนตรีลาหู่เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยเรื่อง ดนตรีมูเซอกับวัฒนธรรมสังคมใหม่ ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพใช้ระเบียบวิจัยทางด้านมานุษยวิทยาดนตรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหน่อซื่อแหล่ะเครื่องดนตรีลาหู่
ผลการศึกษาหน่อซื่อแหล่ะเครื่องดนตรีลาหู่พบว่า หน่อซื่อแหล่ะเป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่า มีลิ้นอิสระ อยู่ในตระกูลแคน หน่อซื่อแหล่ะทำจากน้ำเต้าทรงงาช้าง ไม้ไผ่สำหรับทำท่อ และไม้ไผ่ทำลิ้น และใช้ขี้ชันโรงอุดรอบ ๆ ท่อเพื่อไม่ให้ลมภายในออกมาด้านนอก หน่อซื่อแหล่ะมีหลายขนาดขึ้นอยู่กับขนาดของน้ำเต้า การตั้งเสียงมีทั้งหมด 7 เสียง มีเสียง E A B C E F C ซึ่งมีเสียง E-E และ C-C เป็นคู่ 8 เสียงหน่อซื่อแหล่ะทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับโสตของช่าง การเป่าหน่อซื่อแหล่ะสามารถผลิตเสียงทำนอง เสียงประสานและเสียงโดรน บทเพลงที่ใช้ในเทศกาลทั้งหมดจำนวน 13 เพลง ในแต่ละบทเพลงจะมีทำนองสั้น ๆ แต่บรรเลงซ้ำไปมาหลายรอบ บทเพลงของลาหู่ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ 1)เพลงเกี้ยวพาราสี 2)เกี่ยวกับการอวยพร และ3) นำเอาวิถีชีวิตมาประยุกต์สำหรับการเต้นจะคึ หน่อซื่อแหล่ะเป็นเครื่องดนตรีที่สำคัญต่อพิธีกรรมและประเพณีของกลุ่มชาติพันธ์ลาหู่มาก โดยเฉพาะเทศกาลวันปีใหม่หรือกินวอมีการเต้นจะคึในช่วงกลางคืนจะกระทั่งถึงช่วงเช้า
References
นิยพรรณ (ผลวัฒนะ) วรรณศิร.(2540).มานุษยวิทยาและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: พี.เอ.ลีฟวิ่ง จำกัด.
วิภา คงคากุล.(2529) ความสำคัญของดนตรีต่อสังคม. ถนนดนตรี, 1(1),35-36 ตุลาคม.
ชาวเขาเผ่าลาหู่ (ออนไลน์) แหล่งข้อมูล http://www.sawadee.co.th/thailand/hilltribes/lahu.html สืบค้นวันที่ 30 กรกฏคม 2559
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “Community and Social Development Journal” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Community and Social Development Journal มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และเพื่อให้เผยแพร่บทความได้อย่างเหมาะสมผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เขียนยังคงถือครองลิขสิทธิ์บทความที่ตีพิมพ์ภายใต้ใบอนุญาต Creative Commons Attribution (CC BY) ซึ่งอนุญาตให้เผยแพร่บทความซ้ำในแหล่งอื่นได้ โดยอ้างอิงต้องอ้งอิงบทความในวารสาร ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตผลิตซ้ำเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากแหล่งอื่น
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ