การเสริมสร้างพลังอำนาจสตรีวัยทองในการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุคุณภาพ

บทคัดย่อ

     งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา การเสริมสร้างพลังอำนาจสตรีวัยทองในการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุคุณภาพ เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory action research : PAR) และเปรียบเทียบกระบวนการเรียนรู้และก่อนและหลังการเสริมสร้างพลังอำนาจในตนเอง กลุ่มตัวอย่าง คือ สตรีวัยทอง ที่มีอายุระหว่าง 40-59 ปี จำนวน 100 คน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ เก็บข้อมูลโดยแบบสอบถาม การอภิปรายกลุ่มโดยการเสริมสร้างพลังอำนาจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา สถิติความถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Multiple regression analysis : Stepwise) วิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content analysis) และเปรียบเทียบผลการเสริมสร้างพลังอำนาจก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยสถิติ Paired t-test
    ผลการวิจัยพบว่า สตรีวัยทองมีอายุเฉลี่ย 45.70 ปี ส่วนใหญ่มีสถานภาพสมรส ไม่มีโรคประจำตัว อาการของการเปลี่ยนแปลงภาวะพร่องฮอร์โมนเอสโตรเจนของสตรีวัยทองอยู่ในระดับน้อย เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการเตรียมตัวของสู่ผู้สูงอายุของสตรีวัยทอง โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนรายด้านพบว่าด้านจิตใจและจิตปัญญาอยู่ในระดับ มาก  แต่ในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม พบในระดับ ปานกลาง ทั้งนี้ยังพบว่าการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจ การเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย การรับรู้ความสามารถ และความคาดหวังในการดูแลตนเอง การเตรียมความพร้อมด้านจิตปัญญา การเตรียมความพร้อมด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และความรู้และทัศนคติที่ดีต่อการเป็นผู้สูงอายุ และประสบการณ์ดูแลผู้สูงอายุ สามารถร่วมกันทำนายการเปลี่ยนแปลงการเตรียมความพร้อมได้ร้อยละ 59.30 การเสริมสร้างพลังอำนาจสตรีวัยทองในการเตรียมความพร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุคุณภาพ และสำหรับผู้ที่จะเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ พบว่า ต้องเน้นการเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย จิตใจ ในการมุ่งมั่นจัดการเตรียมตัวสู่การเป็นผู้สูงอายุในอนาคต พร้อมเน้นการให้การส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมทุกมิติสุขภาพ  โดยผลการเปรียบเทียบพลังอำนาจในการส่งเสริมสุขภาพของสตรีวัยทองก่อนและหลังการจัดกิจกรรม พบว่าการจัดกิจกรรมด้านการออกกำลังกาย และการเปลี่ยนแปลงภาวะพร่องฮอร์โมน มีค่าเฉลี่ยหลังการจัดกิจกรรมมากกว่าก่อนจัดกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05