องค์ประกอบเครื่องมือทางการตลาดและแนวทางการพัฒนาสินค้าชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
DOI:
https://doi.org/10.14456/rcmrj.2021.245319คำสำคัญ:
เครื่องมือทางการตลาด, สินค้าชุมชน (โอทอป)บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง “องค์ประกอบเครื่องมือทางการตลาดและแนวทางการพัฒนาสินค้าชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้เครื่องมือทางการตลาดของผู้ประกอบการสินค้าโอทอป 5 ดาว เพื่อการพัฒนาสินค้าชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ และเพื่อศึกษาองค์ประกอบเครื่องมือทางการตลาดของสินค้าโอทอปต่อความต้องการของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ ผลการศึกษาการประยุกต์ใช้เครื่องมือทางการตลาดของผู้ประกอบการสินค้าโอทอป 5 ดาว ในจังหวัดเชียงใหม่พบว่าผู้ประกอบการสินค้าชุมชน (โอทอป 5 ดาว) ในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ความสำคัญกับองค์ประกอบเครื่องมือทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์มากที่สุดมีการพัฒนาสินค้า การออกสินค้าใหม่ และรักษาเอกลักษณ์ของสินค้า ราคาเป็นปัจจัยรองลงมาที่ความสำคัญโดยเฉพาะความชัดเจนด้านต้นทุน ด้านช่องทางการจัดหน่ายมีการจำหน่ายแบบออนไลน์ และด้านการส่งเสริมการตลาดใช้การลดราคาและของแถม ด้านวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบเครื่องมือทางการตลาดของสินค้าโอทอปต่อความต้องการของผู้บริโภคในจังหวัดเชียงใหม่ ความเห็นด้านผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคต้องการให้สินค้าโอทอปมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานและคุณภาพสินค้ามากที่สุด ด้านราคาต้องการให้สินค้าโอทอปมีราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพ ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายต้องการให้สินค้าโอทอปมีความสะดวกในการหาซื้อ ด้านการส่งเสริมการตลาดต้องการให้สินค้าโอทอปมีการจัดโปรโมชั่นตามเทศกาล
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Chaturongakul, A. (2000). Marketing strategies. (2nded.). Bangkok: Thammasart Printing House.
chum-un, M. (2015). Principle of Marketing. (1st ed.). Chiangmai: Chiangmai Rajabhat University. (In Thai)
Hogeforster, M. (2014). Future challenges for innovations in SMEs in the Baltic Sea Region. Procedia-Social and Behavioral Sciences, 110(1), 241-250. DOI:10.1016/j.sbspro.2013.12.867
Kaewsritong, J., Inket, S., & Srihawantanaku, P. (2017). The Development of Natural Material Product and Packaging for OTOP Phitsanulok. Art and Architecture Journal Naresuan University, 8(2), 163-173. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/ajnu/article/view/107370/84956 (In Thai)
Keeratichote, C., & Sunhachawee, S. (2018). Marketing Model for Operation Potential of Herbal Product (Non-food) OTOP Community Enterprises in Southern Thailand. Journal of Business, Economics and Communications, 13(3), 144-153. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/BECJournal/article/view/112453/116677 (In Thai)
Moertini, V. S. (2012). Small medium enterprises: On utilizing business-to-business e-Commerce to go global. In International Conference on Small and Medium Enterprises Development with a Theme “Innovation and Sustainability in SME Development” (ICSMED 2012). Procedia Economics and Finance.
Ngamcachonkulkid, W. (2013). Perception and Capacity Development of OTOP Entrepreneurs with OTOP Strategy for the Upcoming ASEAN Economic Community in 2015. Retrieved from http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/5289 (in Thai)
Phaomatwareethorn, M. (2015). Factors Influencing on Online Shopping Behavior of Consumers for OTOP Products. (Master’s Independent study, Rajamangala University of Technology Thanyaburi). (In Thai)
The Central Information Systems, Ministry of Interior. (2017). Total revenue of OTOP in fiscal year 2017 (From October 2016 to September 2017). Retrieved from https://m-society.go.th/ewt_news.php?nid=21313/. (In Thai)
Suh, Y., & Kim, M. (2014). Internationally leading SMEs vs. internationalized SMEs: Evidence of success factors from South Korea. International Business Review, 23(1), 115-129. DOI:10.1016/j.ibusrev.2013.03.002
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “Community and Social Development Journal” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Community and Social Development Journal มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และเพื่อให้เผยแพร่บทความได้อย่างเหมาะสมผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เขียนยังคงถือครองลิขสิทธิ์บทความที่ตีพิมพ์ภายใต้ใบอนุญาต Creative Commons Attribution (CC BY) ซึ่งอนุญาตให้เผยแพร่บทความซ้ำในแหล่งอื่นได้ โดยอ้างอิงต้องอ้งอิงบทความในวารสาร ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตผลิตซ้ำเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากแหล่งอื่น
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
