การพัฒนาแอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
DOI:
https://doi.org/10.14456/rcmrj.2021.249153คำสำคัญ:
แอปพลิเคชันบนมือถือ, กลุ่มเสี่ยง, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และ 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อแอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย กลุ่มตัวอย่างประเมินประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ได้แก่ ตัวแทนจากชุมชนและนักวิชาการจากสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 5 คน ซึ่งได้มาจากวิธีการแบบเจาะจง กลุ่มตัวอย่างในการประเมินความพึงพอใจของการใช้งาน แอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง จำนวน 30 คน ได้มาจากวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ แอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง แบบประเมินประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน และแบบสอบถามความพึงพอใจจากกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อแอปพลิเคชัน สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผลการประเมินประสิทธิภาพจากผู้เชี่ยวชาญโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.26 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.61 อยู่ในระดับเหมาะสมมาก แอปพลิเคชันคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงสามารถจัดกลุ่มผู้ใช้เป็น 7 กลุ่ม ตามหลักเกณฑ์ของปิงปองจราจรชีวิต 7 สี และให้คำแนะนำสำหรับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพได้ และเมื่อนำไปทดลองใช้งานกับกลุ่มตัวอย่าง มีความพึงพอใจโดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.66 อยู่ในระดับมาก ชุมชนมีศักยภาพในการดูแลสุขภาพของตนเอง เฝ้าระวังและควบคุมปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรู้เท่าทัน และต่อเนื่อง
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Arahung, R., Hoontrakul, S., & Roojanavech, S. (2018). The Effects of Health Literacy Enhancement Program on Hypertensive Prevention Behavior of Pre-hypertension Risk Group at a Community in Nakhon Pathom Province. Royal Thai Navy Medical Journal, 45(3), 509-526. https://he01.tci-thaijo.org/index.php/nmdjournal/article/view/140049 (in Thai)
Bureau of Non Communicable Disease. (2017). Diabetes Prevention and Control Service Model High blood pressure for NCD Clinic Plus. Nonthaburi: Ministry of Public Health. (in Thai)
Foundation of Thai Gerontology Research and Development Institute. (2019). Situation of the Thai Elderly 2018. Nakhon Pathom: Printery. (in Thai)
Gulatee, Y., Pongthanoo, P., & Sakunrasrisuay, C . (2019). Smartphone Application for Diabetes Behavior Study in Thailand. Sripatum Review of Science and Technology, 11(1), 7-22. https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/spurst/article/view/195962 (in Thai)
Jongkasikit, N . (2016). A Decision Support System for Analyzing the Risk of Two Chronic Diseases : Diabetes Mellitus and Hypertension. Industrial Technology Lampang Rajabhat University Journal, 9(2), 11-19. https://li01.tci-thaijo.org/index.php/Itech/article/view/72661 (in Thai)
Promprasit, N., Mak-on, S., & Thula, S. (2020). An Application of Doing Exercise for the Elderly People on Android Smartphone. Sripatum Review of Science and Technology, 12(1), 164-175. https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/spurst/article/view/240150 (in Thai)
Rattanachuchok, P., & Maneelert, C. (2018). Multimedia for Health Promotion of the Elderly in Mueang Kaen Pattana Municipality, Mae Taeng District, Chiang Mai. Sripatum Review of Science and Technology, 10(1), 58-70. https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/spurst/article/view/162374 (in Thai)
The Board of Directors of the National Health Development Plan No. 12, Ministry of Public Health. (2016). National Health Development Plan, No. 12, 2017-2021. Retrieved from https://bps.moph.go.th/new_bps/sites/default/files/HealthPlan12_2560_2564.pdf (in Thai)
Tianthaworn, V. (2013). Surveillance system to control diabetes and hypertension In Thailand: Policy to Action. Bangkok: National Agricultural Cooperative Federation Thai Co., Ltd. (in Thai)
Tongkhao, Y . (2020). The Development of Semantic Augmented Reality on Mobile Devices for Chronic Disease Care of Aging, Watbot District, Phitsanulok Province. Industrial Technology Lampang Rajabhat University Journal, 13(1), 35-47. https://li01.tci-thaijo.org/index.php/Itech/article/view/221723 (in Thai)
Toonkeaw, N., Aunban, P., & Chandeekeawchakool, S. (2018). Effects of Health Behavior Changing Program (Food, Exercise, Emotion, Smoking and Alcohol Cessation, Medicine taking) and Vichai’s 7 Color Balls Model on Knowledge of Health Behavior and Blood Sugar Levels of Diabetic Patients. Journal of Nurses Association of Thailand Northern Office, 24(2). 83-95. https://he01.tci-thaijo.org/index.php/jnorthnurse/article/view/196416 (in Thai)
Worakitkasemsakul, S. (2011). Research methods in behavioral and social sciences.Udon Thani: Udon Thani Rajabhat University. (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
1. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน “Community and Social Development Journal” ถือเป็นลิขสิทธิ์ของ Community and Social Development Journal มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และเพื่อให้เผยแพร่บทความได้อย่างเหมาะสมผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เขียนยังคงถือครองลิขสิทธิ์บทความที่ตีพิมพ์ภายใต้ใบอนุญาต Creative Commons Attribution (CC BY) ซึ่งอนุญาตให้เผยแพร่บทความซ้ำในแหล่งอื่นได้ โดยอ้างอิงต้องอ้งอิงบทความในวารสาร ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตผลิตซ้ำเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์จากแหล่งอื่น
2. เนื้อหาบทความที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
