การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดนครนายก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ศักยภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการการท่องเที่ยว            เชิงสุขภาพ และ 2) หาแนวทางในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผู้สูงอายุในพื้นที่ของจังหวัดนครนายก โดยเป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed Method) ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ              กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้นำชุมชน ผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบล และผู้ประกอบการท้องถิ่น จังหวัดนครนายก จำนวน 24 คน ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึก แบบกึ่งมีโครงสร้าง เพื่อววิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรคของการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (SWOT) และใช้ TOWS Matrix ในการกำหนดกลยุทธ์ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ศักยภาพในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีระดับความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับมาก จากการสัมภาษณ์เชิงลึก พบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผู้สูงอายุในท้องถิ่นของตน เนื่องจากเห็นว่าจังหวัดนครนายกมีพื้นที่และธรรมชาติที่            โดดเด่นในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีบุคลากรและปราชญ์ชุมชนที่มีความรู้ด้านสุขภาพ มีศูนย์การเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม ตลอดจนมีผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นจุดเด่นของชุมชน ส่วนจุดด้อย คือ การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยังไม่ดีเท่าที่ควร ขาดการถ่ายทอดองค์ความรู้ เนื่องจากคนรุ่นใหม่ประกอบอาชีพอื่น จึงไม่มีการจัดการความรู้อย่างต่อเนื่อง และผลกระทบทางเทคโนโลยีที่ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป ดังนั้น ผู้ให้ข้อมูลจากชุมชน จึงได้เสนอแนวทางในการส่งเสริม                       การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผู้สูงอายุ ได้แก่ การบริหารจัดการของชุมชนอย่างเหมาะสม โดยมีผู้นำที่เข้มแข็ง และความร่วมมือจากคนในชุมชนอย่างจริงจัง ร่วมกันวางแผน และดำเนินการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้สูงอายุ และควรมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่อง