รำโหม่งส่วยยี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาบริบทความเป็นมาของการรำโหม่งส่วยยี (2) ศึกษาองค์ประกอบและกระบวนท่ารำโหม่งส่วยยี และ (3) วิเคราะห์โครงสร้างกระบวนท่ารำโหม่งส่วยยีที่มีการสืบทอดกระบวนท่ารำมาจากราชสำนักหอเจ้าฟ้า โดยศึกษากระบวนท่ารำจากนางจันจิรา อินทนิเวศน์ ผู้ได้รับการถ่ายทอดท่ารำจากนางรำในราชสำนักหอเจ้าฟ้ารุ่นที่ 3 และรุ่นที่ 4ดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพโดยศึกษาจากหนังสือ ตำรา บทความงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และ ลงภาคสนามเพื่อฝึกปฏิบัติท่ารำ ดำเนินการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และสรุปผลการวิจัย ผลการศึกษาพบว่า (1) การเข้ามาของชนชาติไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ในรัฐฉานของประเทศพม่าได้นำเอาการแสดงรำโหม่งส่วยยีเข้ามาในเมืองแม่ฮ่องสอน และได้เผยแพร่จากการแสดงถวายเจ้าฟ้าไทใหญ่ไปสู่ชาวบ้านเมืองแม่ฮ่องสอน และได้รับการสืบทอดมาสู่นางจันจิรา อินทนิเวศน์ ในปัจจุบัน (2) องค์ประกอบของกระบวนท่ารำโหม่งส่วยยีประกอบด้วยผู้แสดงที่ใช้ผู้หญิงในการแสดงแต่งกายแบบสตรีนางใน ซึ่งในราชสำนักพม่าใช้วงดนตรีตอยอฮอร์นบรรเลงประกอบการแสดง และกระบวนท่ารำได้รับมาจากนางรำในหอเจ้าฟ้า มีท่ารำหลักจำนวน 8 ท่ารำ และ (3) ผลการวิเคราะห์โครงสร้างกระบวนท่ารำโหม่งส่วยยี พบว่า มีโครงสร้างการใช้ศีรษะ ลำตัว มือ และเท้า เหมือนอย่างนาฏศิลป์พม่า เช่น ลักษณะมือจีบแบบพม่า การรำวงสูงเหนือศีรษะ และการรำดีดเท้า เป็นต้น ส่วนลีลาการร่ายรำ พบว่า มีการผสมผสานระหว่างนาฏศิลป์พม่ากับความอ่อนช้อยในการร่ายรำตามบุคลิกลักษณะนิสัยอันเรียบร้อยของชาวไทใหญ่ ในการแสดงรำโหม่งส่วยยี พบว่า ปัจจุบันการรำโหม่งส่วยยีของชาวไทใหญ่ได้เปลี่ยนบทบาทจากการแสดงในราชสำนัก เพื่อถวายความสำราญแก่เจ้าฟ้า (กษัตริย์) เป็นการแสดงเพื่อตอบสนองการท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ และเพื่อความคงอยู่ของวัฒนธรรมในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในยุคโลกาภิวัฒน์
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ประกาศลิขสิทธิ์จะปรากฏในเกี่ยวกับวารสาร ควรอธิบายสำหรับผู้อ่านและผู้เขียนว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นผู้เขียนวารสารหรือบุคคลที่สาม ควรรวมถึงข้อตกลงการอนุญาตเพิ่มเติม (เช่นใบอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์) ที่ให้สิทธิ์แก่ผู้อ่าน (ดูตัวอย่าง) และควรให้วิธีการรักษาความปลอดภัยหากจำเป็นสำหรับการใช้เนื้อหาของวารสาร